Welcome to Blog ห้องสมุดความรู้ หากท่านถูกใจ ฝากกดแชร์( Like) (G+) (Tweet) ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้จัด ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง เฮงๆรวยๆ #4289

+ ทำอย่างไรถึงจะรวย ?

ทำอย่างไรถึงจะรวย ?

ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ลึกๆแล้วต้องการที่จะมีเงินใช้อย่างสบาย ซึ่งก็มีความหมายนัยๆว่ารวยนั้นเอง เพียงแต่คำว่ารวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมีเงินเพียง 5 แสนบาทก็คิดว่ารวยแล้ว ในขณะที่บางตนมีเงินหลายหมื่นล้านบาท แต่ก็ยังคิดว่าตัวเองไม่รวยพอ ดังนั้น เรื่องของความรวยที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ จะไม่ระบุว่าเป็นจำนวนเท่าใด แต่จะขอพูดถึงเรื่องของการมีเงินใช้อย่างสุขสบายเป็นหลัก


สิ่งแรกที่จำเป็นสำหรับการตั้งต้นของหนทางแห่งความรวยก็คือ อย่างรังเกียจความรวย เพราะถ้าหากท่านมองว่าความรวยเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจแล้ว ท่านก็จะไม่มีวันที่จะพยายามทำให้ตัวเองรวย เพราะคงไม่มีใครอยากทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ หากตั้งใจที่จะทำให้ตัวเองรวยแล้ว ความตั้งใจจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้ท่านมีความพยายามที่จะกระทำเพื่อ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ให้ได้


สิ่งที่จำเป็นต่อมาก็คือ การประเมินว่าตัวเองมีเงินเท่าไหร่จึง จะสามารถใช้จ่ายได้อย่างสุขสบาย ซึ่งท่านก็สามารถประเมินได้จากการใช้จ่ายปกติทั่วไปในชีวิตประจำวัน และประเมินว่าจำนวนเงินที่ท่านใช้ในปัจจุบันจะมีค่าเป็นเท่าใดในอนาคต (ตามอัตราเงินเฟ้อ) จากนั้น ท่านก็ต้องลองคำนวณดูว่าเมื่อนับรวมระยะเวลาทั้งหมดในการใช้จ่ายของท่านแล้ว จะเป็นเงินจำนวนเท่าใด ท่านก็จะทราบว่าท่านจะต้องมีเงินเก็บเท่าใดจึงจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุข สบายโดยไม่เดือดร้อนใคร ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันท่านอายุ 40 ปี และท่านต้องการเกษียณอายุเมื่ออายุ 60 ปี โดยที่หลังเกษียณอายุท่านคาดว่าท่านจะมีอายุถึง 80 ปีโดยที่หลังเกษียณอายุท่านต้องการมีเงินใช้เทียบเท่ากับเงิน 20,000 บาทต่อเดือน ในปัจจุบัน และสมมติว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยเท่ากับ 5 % ต่อปี ในกรณีนี้ หากท่านฝากเงินไว้กับธนาคารซึ่งคาดว่าจะได้รับดอกเบี้ยหลังหักภาษีเท่ากับ 1 % ต่อปี ในวันที่ท่านเกษียณ ท่านจะต้องมีเงินเก็บประมาณ 17.4 ล้านบาท ท่านจึงจะสามารถมีเงินใช้ได้เมื่อเทียบเป็นค่าเงินปัจจุบันเท่ากับ 20,000 ต่อเดือน


หัวใจที่สำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับเส้นทางสู่ความรวยก็คือ ความมีวินัยในการออมและการลงทุน นักลงทุนเป็นจำนวนมากมักจะขาดวินัยในการออมและการลงทุน เพราะการออมและการลงทุนในช่วงแรกๆ ผลตอบแทนที่ได้มักจะไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก เพราะแลดูเหมือนว่าได้ผลตอบแทนน้อย เช่น หากนักลงทุนลงทุนจำนวน 100 บาท โดยได้ผลตอบแทน 10 % ต่อปี เมื่อครบปีแรก เงินลงทุนของท่านจะเพิ่มเป็น 110 บาท เพิ่มเป็น 121 บาท ในปีที่สอง และเพิ่มเป็นเป็น 133.1 บาท ในปีที่ 3 ซึ่งการที่เงินแลดูเหมือนเพิ่มขึ้นน้อยนี้ อาจทำให้นักลงทุนบางท่านที่ต้องการรวยเร็วละทิ้งวินัยการลงทุนได้ แต่ ถ้าท่านยึดถือวินัยการลงทุน และสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ย 10 % เป็นเวลา 20 ปีเงินลงทุนของท่านจะเพิ่มเป็น 672.75 บาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าของเงินลงทุนเริ่มต้น ซึ่งถ้าท่านเปลี่ยนเงินลงทุนจาก 100 บาท เป็น 500,000 บาท เงินลงทุนของท่านก็จะเพิ่มเป็น 3,363,750 บาทในปีที่ 20 สำหรับบางท่านที่ต้องการรวย แต่ยังมีเงินเก็บไม่พอ ก็ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีวินัยในการออมและการลงทุนมากขึ้น โดยท่านควรออมหรือลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ เช่น ท่านอาจจะออมหรือลงทุนเป็นจำนวนอย่างน้อย 5,000 บาททุกเดือน และออมเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป


สิ่งสำคัญประการสุดท้ายก็คือ เวลา การที่ท่านจะเป็นคนรวยได้จะต้องอาศัยการออมและการลงทุนเป็นระยะเวลายาวนาน เช่น Mr. Warren Buffet ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก มีสินทรัพย์ประมาณ 6.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มลงทุนครั้งแรกตั้งแต่ปี 1954 ด้วยเงินเพียง 100 เหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่การที่เขาให้เวลาในการสะสมความร่ำรวย และการรักษาวินัยการลงทุน จึงทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปัจจุบัน การที่ท่านนักลงทุนไม่ให้เวลาในการออมและการลงทุน จะเป็นสาเหตุให้ท่านนักลงทุนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เกินกว่าระดับที่เหมาะสมต่อท่าน รวมถึงการทำให้ท่านไม่สามารถรักษาวินัยในการออมและลงทุนไว้ได้


อย่างไรก็ตาม การที่ท่านจะเป็นคนรวย ท่านควรจะเป็นคนรวยที่มีความสุขและมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะหากท่านมีความร่ำรวยเพียงอย่างเดียว แต่ขาดซึ่งความสุขและสุขภาพที่ดี ก็อาจจะไม่คุ้มค่าที่จะสร้างความร่ำรวยได้ ดังนั้น การสร้างความร่ำรวย ท่านควรคำนึงถึงแนวทางของความสุขและสุขภาพที่ดีด้วย เช่น ร่ำรวยอย่างสุจริตและไม่เบียดเบียนใคร ไม่เก็บออมหรือทำงานหนักมากเกินไปจนสุขภาพทรุดโทรม หรือท่านมามารถเพิ่มความสุขจากความร่ำรวยของท่าน โดยการบริจาคเงินที่ได้ส่วนหนึ่งให้แก่การกุศล เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น