Welcome to Blog ห้องสมุดความรู้ หากท่านถูกใจ ฝากกดแชร์( Like) (G+) (Tweet) ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้จัด ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง เฮงๆรวยๆ #4289

สี จิ้นผิง สอนลูกเรื่องไข่ไก่ในชามบะหมี่


3 ประโยคที่พ่อสอนสั่ง "สี จิ้นผิง" ประธานาธิบดีจีน


-------------------------

ตอนเด็กๆ ข้าพเจ้าเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก เจออะไรดีๆ จะอยากเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ โดยไม่ใส่ใจว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไร นานเข้า เพื่อนๆ หายไปทีละคนสองคน มีเพื่อนน้อยลงไปเรื่อยๆ ข้าพเจ้ากลัดกลุ้มและหงุดหงิดใจมาก

1) มีอยู่คืนหนึ่ง คุณพ่อทำบะหมี่สองชาม ชามหนึ่งมีไข่ไก่ฟองหนึ่งบนบะหมี่ อีกชามดูไม่มีอะไร มีแต่บะหมี่ คุณพ่อถามข้าพเจ้าว่าจะทานชามไหน ?

ตอนนั้นไข่ไก่เป็นของหายากมาก ก็แหงอยู่แล้ว ข้าพเจ้าก็เลือกทานชามที่มีไข่โปะอยู่ข้างบน

แต่ตอนที่ทานอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น เห็นคุณพ่อทานถึงก้นชามแล้ว ในก้นชามถึงกับมีไข่สองฟอง ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจ ที่ตนใจร้อนไม่ได้คิดให้ดี จึงเลือกผิด

คุณพ่อเห็น ท่านก็ยิ้ม แล้วพูดกับข้าพเจ้าว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าจงจำไว้ ที่ตาเห็นนั้นอาจไม่ใช่ของแท้ คิดจะเอาเปรียบคนอื่น กลับขาดทุนใหญ่หลวงได้นะลูก”


2) ในคืนที่สอง คุณพ่อก็ทำบะหมี่อีกสองชาม ดูแล้วเหมือนของคืนก่อนไม่มีผิด ชามหนึ่งมีไข่โปะอยู่ฟองหนึ่ง อีกชามหนึ่งคล้ายมีแต่บะหมี่ อีกแล้ว !

คุณพ่อให้ข้าพเจ้าเลือก ข้าพเจ้าเสียค่าโง่ไปทีแล้ว ข้าพเจ้าเลือกเอาชามที่ไม่มีไข่ แล้วรีบโกยบะหมี่เข้าปาก ด้วยความคิดที่จะทานไข่ในก้นชามไวๆ แต่หารู้ไม่ว่า นอกจากบะหมี่แแล้ว ไม่มีอะไรอยู่ที่ก้นชามเลย

คุณพ่อกับกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “ลูก เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะลูกนะ อย่าให้ความสำคัญ หรือเชื่อในประสบการณ์มากเกินไป เพราะการดำรงชีวิตมีการพลิกเพลง หลอกเราได้เสมอ แต่ลูกก็ไม่ต้องท้อแท้ ไม่ต้องเสียใจ ถือว่าเป็นการลิ้มลองเป็นประสบการณ์ก็แล้วกันนะลูก ภูมิปัญญาเหล่านี้หาอ่านจากตำราไม่ได้นะ”

3) ในคืนที่สาม คุณพ่อก็ทำบะหมี่สองชามอีก ดูเป็นแบบเดียวกันอีกแล้ว ชามหนึ่งมีไข่ฟองหนึ่ง อีกชามไม่มีไข่

คราวนี้ข้าพเจ้าให้คุณพ่อเลือกก่อน ไม่หุนหันเหมือนสองคืนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าพูดกับคุณพ่อด้วยความเคารพว่า “คุณพ่อครับ ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลครอบครัวเรามามากแล้ว คุณพ่อเลือกก่อนเถอะครับ”

คุณพ่อเลือกเอาชามที่มีไข่หนึ่งฟอง ส่วนข้าพเจ้าก็ทานชามที่ไม่เห็นมีไข่ แต่ผิดคาดนะครับ ในก้นชามมีไข่อยู่สองฟอง !

คุณพ่อเงยหน้าขึ้น และพูดกับข้าพเจ้าว่า “ลูกต้องจำไว้ให้ดีนะ เมื่อลูกคิด และทำเพื่อคนอื่นแล้ว ความโชคดีก็บังเกิดกับเราได้นะ”

คำพูดของคุณพ่อทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกละอายใจในตัวเองเป็นอย่างมาก นับแต่นั้นมา ข้าพเจ้าก็จดจำสามประโยคของคุณพ่อไว้มิรู้ลืม ยึดเป็นสรณะในการดำรงชีวิต ไม่ว่าเป็นการวางตัวหรือปฏิบัติหน้าที่ ก็มักจะคำนึงถึงประโยชน์ของคนอื่นก่อน ผลก็เป็นอย่างที่คุณพ่อได้สอนสั่งไว้จริงๆ ความโชคดีมาเยือนมิได้ขาด และหน้าที่การงานของตัวเองก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ งานบางอย่างก็ไปแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว

ที่มาแปลโดย: อาทร ฟุ้งธรรมสา

7 เสน่ห์ทำให้คนรัก


  1. รู้จักทักทายสนทนาด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดี
  2. เป็นตัวของตัวเอง
  3. รู้จักรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
  4. รอยยิ้ม
  5. รู้ักใช้ชีวิตคิดบวก
  6. บุคลิกภาพดี
  7. หาความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมเสมอ

สุภาษิต คติธรรม คำกลอน คำสอนจีนโบราณ

สุภาษิต คติธรรม คำกลอน คำสอนจีนโบราณ


1. ทั่วปฐพีล้วนมีขุมทรัพย์ เพียงแต่รอผู้มีวาสนามาค้นหา
2. ปลูกต้นไม้บำรุงราก ปลูกฝังคุณธรรมต้องบำรุงจิตใจ
3. การเป็นคนต้องพยายามทำให้ดีที่สุด นอกจากนี้แล้วแต่ฟ้าลิขิต
4. คุณธรรมความดีไม่ได้อยู่ที่ลิ้น แต่เก็บไว้ในใจ
5. คนมีคุณธรรมย่อมรุ่งเรือง คนถืออำนาจย่อมหายนะ
6. ใคร่ครวญต้องช้าๆ ลงมือทำต้องรวดเร็ว
7. ต้องเคารพนับถือตนเอง มิฉนั้นแล้วจะไม่มีผู้อื่นเคารพท่าน
8. เหนือภูเขายังมีภูเขา เหนือคนยังมีคน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า)
9. คนมักตายเพราะทรัพย์เป็นเหตุ นกมักตายก็เพราะเหยื่อ
10. คนสูงศักดิ์สอนด้วยวาจา คนต่ำศักดิ์ใช้แส้สั่งสอน
11. บุตรที่ดีย่อมมาจากบิดามารดาประพฤติสั่งสอนดี
12. คนที่มีปัญญาเห็นแก่ตัว สู้คนโง่ทำเพื่อส่วนรวมไม่ได้
13. ควรยอมผิดใจกับสุภาพชน แต่อย่าผิดใจกับคนพาล
14. คนดีมักถูกรังแก ม้าดีจึงมักถูกควบขี่
15. การวางเฉยเป็นมารยาทที่ดี แต่มากนักมักเป็นคนลับลมคมใน
16. การไม่สามารถแยกดี-ชั่ว เป็นบุคคลน่าห่วงใยที่สุด
17. จงเคารพนบน้อมผู้อื่น แล้วผู้อื่นก็จะเคารพนบน้อมท่าน
18. โชควาสนาติดตามคนกล้า เคราะห์กรรมตามหลังคนขลาด
19. คบคนดีควรผ่อนปรน คบคนชั่วควรระวังกวดขัน
20. ผู้ให้ไม่หวังผล ผู้รับไม่ควรลืม
21. ผู้กระทำการใหญ่ ย่อมไม่ถือสาคำตำหนิเล็กๆ น้อยๆ
22. ระวังการใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ รูรั่วเล็กๆ อาจจมเรือใหญ่โตได้
23. โรคภัยเข้าทางปาก ภัยวิบัติก็ออกจากปาก
24. เทพเจ้าแห่งโชคลาภย่อมรักคนกล้าหาญ
25. ความขี้เกียจคือสุสานฝังคนทั้งเป็น
26. อาศัยโชคชะตาหรือจะสู้ความสามารถตนเองได้
27. รู้จักคนรู้จักหน้า แต่หารู้จิตใจไม่
28. ระยะทางพิสูจน์กำลังม้า กาลเวลาพิสูจน์จิตใจคน
29. อย่ารังแกคนยากจน อย่าหยิ่งยะโสในความมั่งมี
30. อย่าเป็นคนเห็นแก่ตัว การเห็นแกตนย่อมประสบภัยอันตราย
31. ยามมีอำนาจอย่าเหลิง ยามมีสุขก็อย่าหลงระเริง
32. ผู้รอบรู้มักถ่อมตัว ผู้โง่เขลามักหยิ่งยะโส
33. ความสามารถควรมีมาก แต่ปัญหาควรมีน้อย
34. บุรุษอัจฉริยะอยู่ที่ปาก อาชาดีอยู่ที่ฝีเท้า
35. คนซื่อสัตย์พูดคำใดถือเป็นสัญญาคำนั้น
36. หนทางนั้นเคี้ยวคด แต่เหตุผลนั้นเที่ยงธรรม
37. ของมีพิษห้ามกิน ของผิดกฎหมายห้ามทำ
38. บุคคลชอบระแวงสงสัย ไม่ควรประกอบธุรกิจร่วมกัน
39. การทำงานอย่าเอาแต่ทิฏฐิของตน ต้องเข้าใจเหตุผลของงาน
40. ปัญญาชนควรสนิทไว้ แต่หาใช่ว่าต้องตามเขาไปเสียทุกอย่าง
41. ดอกไม้งามมักไม่หอม ดอกไม้หอมมักไม่งาม
42. การดำรงชีวิตประจำวัน ใช้คำว่า “ง่ายๆ “ ย่อมสบาย
43. ความรู้ทำให้รู้จักถ่อมตน ไร้ความรู้ทำให้จองหองอวดดี
44. ความโกรธทำให้ตนเองรับทุกข์ทรมาน
45. คนโง่เท่านั้นมักอวดตนเป็นคนฉลาด
46. สุภาพชนเหนือผู้อื่น อยู่ที่รู้จักนอบน้อมถ่อมตนเท่านั้น
47. ใช้จ่ายสิ้นเปลืองนำมาซึ่งความขาดแคลนอดสู
48. ขอให้ทุกคนจงสดับ อย่าได้ไม่รู้จักประมาณตน
49. รายได้น้อย รายจ่ายมาก ยังให้ทุกข์ทั้งชีวิต
50. ความมัธยัสถ์เป็นหนทางแห่งความร่ำรวยที่ยิ่งใหญ่
51. ไม่มีสิ่งใดไม่ประสบความสำเร็จ หากมีความขยันอดทน
52. กิจกรรมทั้งมวล ความซื่อสัตย์สำคัญที่สุด
53. คุณความดีเว้นจากการทำบาป และไม่คิดทำบาปอีกด้วย
54. ภายใต้ฟ้าไม่มีสิ่งใดมาก สำหรับผู้มีใจพากเพียร
55. มารยาทดีงามต่อคนเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด
56. มูลรากของความชั่วร้าย มาจากความเกียจคร้าน
57. ความรีบร้อนมักนำความผิดพลาดมาให้เสมอ
58. ผู้มีความเพียรอย่างแรงกล้า เท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง
59. การกล่าววาจากระทบผู้อื่น เหมือนคมมีดกรีดหัวใจ
60. หญิงขี้เกียจกับเตียงที่อบอุ่นย่อมแยกจากกันยาก
61. เรื่องราวของครอบครัวไม่ควรแพร่งพรายออกนอกเรือน
62. คบหากันเพราะรูปโฉม ความงามร่วงโรย ความรักที่สลาย
63. เมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการ ทั้งคู่ก็ย่อมไม่เกิดทะเลาะกัน
64. อยู่บ้านอาศัยพ่อ แต่งงานอาศัยสามี แก่เฒ่าอาศัยลูกหลาน
65. จงเอาความรักบุตรภรรยาไปมอบให้แก่บิดามารดา
66. ภรรยาเพื่อน อย่าได้รังแกล่วงเกิน
67. มารดาที่อบรมดีคนเดียวมีค่าเลิศเท่าครูร้อยคน
68. พันคนก็มีเรื่องทุกข์พันอย่าง แต่มีทุกข์ไม่เหมือนกันสักคน
69. ปัจจุบันละเลยเรื่องเล็กน้อย ภายหน้าเสียใจอย่างใหญ่หลวง
70. การพูดจาไม่รู้จักถ่อมตน ธุรกิจก็ยากที่จะประสบผล
71. คนที่ไม่มีรอยยิ้มแย้ม อย่าคิดเปิดทำกิจกรรมการค้า
72. คนต้องมีกิริยาสุภาพ ดุจดอกไม้ต้องมีกลิ่นหอม
73. ผู้ชอบทะเลาะวิวาท ย่อมมีมิตรน้อย
74. ถอยสักก้าว ทะเลดูกว้าง ท้องฟ้าสดใส
75. อาศัยผู้อื่นอย่าเอาแต่ใจตน ต้องเรียนรู้นิสัยผู้อื่นด้วย
76. ผู้ไร้สัจจะ ถึงจะมีความสามารถก็ไร้ประโยชน์
77. มูลเหตุแห่งความเสียทรัพย์มาจากความเร่งรีบเสมอ
78. เดินพลาดเพียงก้าวเดียว อาจทำให้งานใหญ่พังได้
79. ผู้ไม่คิดการณ์ไกล มักประสบความทุกข์ยากเมื่อจวนตัว
80. บุคคลเปิดช่องให้โทสะครอบงำ ยังความวิบัติให้แก่ครอบครัว
81. กตัญญูเป็นการแสดงออกของจิตใจ อันสูงและประเสริฐ
82. ครอบครัวจะรุ่งเรืองอยู่ 2 ประโยค ขยันกับประหยัด
83. ความอดทนหลีกเลี่ยงทุกข์ภัยที่ใหญ่หลวงได้
84. เมื่ออยากจะรู้ความในใจเขา ต้องฟังเขาพูด
85. การมุสาเป็นก้าวแรกเดินเข้าสู่ประตูคุก
86. ผู้สูญเสียความซื่อสัตย์ เหมือนสูญเสียแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง
87. ความอวดดีจองหองเป็นการเริ่มต้นแห่งบาป
88. โกหกเพียงครั้งเดียว ถูกสงสัยตลอดกาล
89. ผิดพลาดเพียงก้าวเดียว เสียใจไปตลอดชีพ
90. อารมณ์โกรธเข้าประตูหน้า สติปัญญาก็โผออกประตูหลัง
91. ปุถุชนหาใช่นักปราชญ์บัณฑิตไม่ ใครบ้างจะไม่ทำผิดเลย
92. คนดีเกลียดชังความชั่ว เพราะรักในคุณธรรม
93. ความหวั่นกลัวเป็นอุปสรรคการสร้างคุณธรรมทั้งมวล
94. ยามรุ่งเรืองไม่ประมาท ยามตกยากต้องอดทน
95. อย่าอวดตนเก่งกว่าผู้อื่น โลกนี้ผู้ที่เก่งกว่าตนนั้นมีมากมาย
96. คนตายส่งกลิ่นเหม็นหนึ่งลี้ คนเป็นส่งกลิ่นเหม็นพันลี้
97. ผู้มีเมตตาธรรมย่อมไร้ทุกข์ ผู้มีปัญญาย่อมไม่ลุ่มหลง
98. ยามให้ไม่ควรคิด ยามรับควรตอบแทนคุณ
99. ความอดทนรวมกับความกล้าหาญ ย่อมบรรลุสุขแน่นอน
100.ความอดทนเป็นต้นไม้ให้รสแสนขม แต่การให้ผลนั้นหอมหวาน
101.ผู้ที่สามารถควบคุมความโกรธไว้ได้ เป็นผู้มีปัญญายอดเยี่ยม
102.ร่างกายสมบูรณ์ไม่ต้องใช้ยาบำรุง จิตใจดีงามไม่ต้องกินเจ
103.จิตที่ยึดมั่นในพุทธธรรม ไม่มีมารปีศาจมารบกวน
104. กุศลกรรมที่ไม่มีอะไรใหญ่เท่ากับการให้ “อโหสิกรรม

Create gravity

การสร้างแรงดึงดูด

10 เทคนิคสร้างเสน่ห์ที่อธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์

ความเข้าใจผิดๆ ของคนส่วนใหญ่คือ คนที่มีเสน่ห์มักจะเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาดีเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เสน่ห์ หรือ แรงดึงดูด ไม่ได้เกิดจากรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว หากเกิดจากหลายๆ ปัจจัยที่ช่วยให้คนคนหนึ่งดึงดูดคนอีกคนหนึ่งราวกับแรงของแม่เหล็ก GQ ได้นำเอาปัจจัยที่ว่านี้มาบอกคุณ มันคือเทคนิคการสร้างเสน่ห์ที่อธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา ว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแรงดึงดูดขึ้น แล้วคุณจะรู้ว่าการเป็นคนมีเสน่ห์เป็นเรื่องที่มากกว่าเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก

1. ให้ภาษากายช่วยสร้างแรงดึงดูด

แม้จะไม่มีการสนทนาเกิดขึ้นคุณก็สามารถสร้างเสน่ห์ให้ตัวเองได้ด้วยภาษากาย โมนิกา มัวร์ (Monica Moore) นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิสซูรีได้ทำการทดลองในบาร์แห่งหนึ่ง โดยเปรียบเทียบว่าใครได้รับความสนใจมากกว่ากัน ระหว่างคนใช้ภาษากายแสดงออกถึงอารมณ์ต่างๆ เช่น การใช้สายตา การยกคิ้ว หรือการเอามือลูบคอ กับอีกคนที่ดูดีกว่าแต่นั่งอยู่เฉยๆ ผลการทดลองออกมาว่าคนที่ใช้ภาษากายมีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจมากกว่าคนที่นั่งอยู่เฉยๆ

2. กินกระเทียมช่วยให้เดตแรกราบรื่น

ตามปกติเรามักจะเข้าใจว่า กระเทียมเป็นสิ่งที่ไม่ควรรับประทานก่อนออกเดต เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่เราคงต้องคิดใหม่ เพราะงานวิจัยจาก Czech Republic ระบุว่ากระเทียมสามารถทำให้กลิ่นกายน่าดึงดูดขึ้นได้ เนื่องจากกระเทียมมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่ช่วยทำให้กลิ่นตัวดีขึ้น และยังมีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นใต้วงแขน แต่ต้องระวังอย่าให้กลิ่นกระเทียมติดอยู่ในปากขณะพูด

3. ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบผู้ชายมีหนวด

ผู้หญิงมักจะรู้สึกว่าหนวดของผู้ชายเป็นส่วนที่มีเสน่ห์น่าดึงดูด เพราะหนวดแสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่และเพศชาย แต่ระวังอย่าไว้หนวดยาวจนรกรุงรัง เพราะจะสร้างความรู้สึกก้าวร้าวแทน มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ได้ทำการทดลองโดยให้กลุ่มผู้หญิงเลือกรูปผู้ชายคนเดียวกัน 4 รูป ในขณะที่ใบหน้าเกลี้ยงเกลา, ไว้หนวด 5 วัน, ไว้หนวด 10 วัน และไว้ยาวจนเต็มใบหน้า ผลปรากฏว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกรูปที่ใบหน้ามีหนวดประมาณ 5-10 วันมากที่สุด

4. สร้างความสนใจด้วยความกระตือรือร้น

ความกระตือรือร้นถือเป็นการแสดงออกที่มีเสน่ห์ในการสร้างความสัมพันธ์ เพราะเป็นการบอกให้คนอื่นรู้ว่าเราพร้อมจะเป็นเพื่อนที่ดี หรือพร้อมจะเป็นคนรักที่ใส่ใจ วิธีที่ดีที่สุดในการแสดงออกถึงความกระตือรือร้นคือ การทำให้คนที่สนทนารับรู้ว่าเราสนใจและอยากพูดคุยด้วย แล้วคุณจะแปลกใจว่าคู่สนทนาก็กระตือรือร้นอยากจะรู้จักคุณกลับเหมือนกัน

5. สีแดงช่วยเพิ่มแรงดึงดูด

มนุษย์มักจะเปรียบเทียบสีกับสถานะทางสังคม การแต่งกายด้วยสีแดง หรือสีในโทนร้อน จึงช่วยให้คุณดูโดดเด่นขึ้น เนื่องจากสีแดงให้ความรู้สึกถึงความมั่งคั่ง และสถานะทางสังคมที่สูงกว่า จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ พบว่า การโพสต์รูปขณะใส่เสื้อสีแดงในเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ มีแนวโน้มที่จะมีคนถูกใจมากกว่าการใส่เสื้อสีอื่นถึงสองเท่า

6. เริ่มต้นการสนทนาด้วยประโยคง่ายๆ

มีหลายทางเลือกที่คุณสามารถใช้เริ่มต้นการพูดคุยเพื่อทำความรู้จัก แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ การเปิดบทสนทนาด้วยประโยคง่ายๆ เช่น การทักทายแบบปกติ หรือการพูดคุยที่ไม่ดูรุกล้ำอีกฝ่ายจนเกินไป เพราะจะทำให้คู่สนทนารู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วยในครั้งแรก ส่วนสิ่งที่ต้องห้ามคือคำพูดในเชิงหยอกล้อ คำทะลึ่ง หรือการเล่นมุขเสี่ยว ซึ่งจะให้ผลในทางลบมากกว่า

7. แว่นกันแดดจะทำให้คุณหล่อขึ้น

มนุษย์มักจะประเมินความสวยงามผ่านสัดส่วนของใบหน้า ยิ่งสัดส่วนสมมาตรกันเท่าไรก็ยิ่งสวยงามมากเท่านั้น การสวมแว่นกันแดดที่เหมาะสมกับรูปหน้าจะช่วยปรับโครงหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น เพราะเลนส์และสีของแว่นจะช่วยปกปิดส่วนบนของใบหน้าได้ เราจึงไม่แปลกใจที่เมื่อเห็นใครๆ สวมแว่นกันแดดแล้วจะดูดีขึ้น

8. บอกรักให้ได้ผลต้องพูดที่หูข้างขวา

เพื่อให้คุณบอกรักแฟน หรือพูดให้คู่เดตประทับใจ เราขอแนะนำให้คุณพูดผ่านหูข้างขวา เพราะจากงานวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) ระบุไว้ว่า การได้ยินคำพูดเร้าอารมณ์ผ่านหูข้างขวาจะสามารถทำให้คนฟังเคลิบเคลิ้มและจดจำได้ถึง 64.43 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่การได้ยินผ่านหูข้างซ้ายอยู่ที่ 58.15 เปอร์เซ็นต์

9. ใช้เพลงช้าเร้าอารมณ์

เพลงช้าเป็นตัวช่วยที่ดีในการสะกดคู่รักของคุณให้อยู่หมัด เพราะจากรายงานของ Daniel Mullensiefen นักจิตวิทยาด้านเสียงเพลง บอกว่า เพลงช้า หรือ เพลงบรรเลง สามารถกระตุ้นอารมณ์ได้มากกว่าการสัมผัสถึง 40 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ฉากเลิกซีนในภาพยนตร์มักจะใช้เพลงบรรเลงช้าๆ เพราะมันสร้างอารมณ์ร่วมได้ดีกว่านี่เอง

10. สบตาแม้จะไม่รู้จักกัน

การสบตา คือหัวใจสำคัญของการสนทนา และช่วยสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี แต่ถึงแม้จะไม่มีการสนทนา การสบตาก็ยังสามารถสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างกันขึ้นมาได้ เพราะเพียงแค่สบตาก็สามารถบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเราสนใจโดยที่ไม่ต้องใช้คำพูด เช่น หากคนที่ยืนอยู่อีกมุมห้องมองมาที่คุณ และคุณสบตากลับ ก็มีแนวโน้มว่าคุณจะสร้างความประทับใจต่อคนๆ นั้นโดยที่ยังไม่รู้จักกัน

ที่มา - GQ Thailand
www.gqthailand.com