Welcome to Blog ห้องสมุดความรู้ หากท่านถูกใจ ฝากกดแชร์( Like) (G+) (Tweet) ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้จัด ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง เฮงๆรวยๆ #4289
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ seo แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ seo แสดงบทความทั้งหมด

seo , PR เว็ป

เส้นทางสู่ความสำเร็จ Google PR /Google PageRank หัวใจของ เว็บเพจนับล้าน ๆ





เซ็คค่า PageRang ของคุณก่อน    ได้ที่นี่ !

Enter the URL of any website or web page to get its Google PageRank. Remember, "www.domain.com" and "domain.com" may have different results.
Site URL :  

SEO เคล็ดลับ โปรโมท Blog web ให้ดัง

75 วิธี รวมเคล็ดลับ โปรโมทเว็บ หรือ Blog ให้ดัง เว็บฟรี เว็บร้านค้าออนไลน์

แวะไปเห็นเว็บนึงรวมข้อมูลไว้ดีมาก ขออนุญาตินำมาเผยแพร์ต่อ ถึงวิธีการโปรโมตเว็บ หรือ blog ซึ่งว่าผมเขียนได้ ชัดเจนดีมาก และนอกจากใช้โปรโมต Blog แล้วมันยังสามารถ นำมาใช้โปรโมตเว็บได้อีกด้วย หากเราทำตาม 75 ข้อนี้ โอกาสเว็บเราคนเข้าเยอะ เป็นไปได้ไม่ยากเลยครับ
1. ถ้าคุณเพิ่งทำเวบใหม่สดๆเลย ก็เขียนบทความอะไรซักหน่อย แล้วไปส่งที่ Digg.com, Reddit.com, และ Now Public.com
2. สร้าง Yahoo Group เกี่ยวกับเรื่องของเวบเรา
3. สมัคร MySpace แล้วใช้มันช่วยโปรโมท
4. บุ๊คมาร์คเวบเราที่ Del.icio.us และถ้าคุณมีกึ๋นซักหน่อยนะ ก็ใส่ปุ่ม Del.icio.us ไว้ในเวบของคุณด้วย
5. สมัคร Technorati แล้วก็ "claim" Blog ของคุณซะ (อย่าลืมใส่ปุ่ม ไว้ที่เวบ)
6. submit เวบของคุณที่ directories ที่เป็น seach engine friendly แบบฟรีๆ ก็มีเยอะแยะ เช่น Info Vilesilencer
7. ทำแบบสำรวจ นี่เป็นวิธีที่ดีที่จะโปรโมทแบบ offline (มีใครเคยทำมั้ยง่ะ - -a)
8. ไปลงโฆษณาฟรีสำหรับบริษัทของคุณที่ Gumtree
9. ใช้ RSS feeds
10. submit RSS feeds ของเราตาม FeedBurner, Squidoo, Feedboy, Jordomedia, FeedBomb, FeedCat, rssmad, feedirectory, และ Feedboy
11. เขียนบทความที่เกี่ยวกับเวบของคุณ แล้วส่งไปตาม article sites

12. สมัคร StumbleUpon แล้วเรียกเพื่อนๆมาช่วย Stumble
13. สร้างหน้า 404 ของตัวเองไว้ เผื่อว่าคนเข้ามาเจอ error ก็จะ redirect ไปที่อื่นๆที่ดีๆ
14. สร้าง 301 redirect เพื่อจะ redicrect traffic ของคุณจาก non-www มาที่ www ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
15. ใส่ลิ้งของเวบคุณไว้ใน signature ของเวบบอร์ดที่คุณเป็นสมาชิก
16. บอกเพื่อนๆเกี่ยวกับเวบของคุณ (มันเป็นหารโฆษณาฟรีๆน่ะ)
17. ตรวจคำผิดในเวบของคุณด้วย!
18. เช็คเวบของคุณ browser หลายๆอัน
19. ซื้อโฮสต์ที่ดีพอ ไม่มีใครชอบเวบที่เป็นเต่าคลาน
20. ไม่ต้องกังวลกับ PageRank ไปหาทางโปรโมทดีกว่านะ เดี๋ยว PageRank มันก็ดีตามเอง
21. แจกของฟรี !! คนส่วนมากจะบอกต่อ เมื่อมีของฟรี
22. บอกเพื่อนบ้านของคุณ (- -a)
23. บอกวิธีที่จะติดต่อคุณให้มากที่สุด msn email yahoo skype เบอร์โทร ที่อยู่
24. ลงโฆษณากับ Craigslist มันฟรี และก็ดีใช้ได้
25. อย่าใช้ Frames
26. Submit เวบที่ DMOZ.org มันอาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย แต่ก็คุ้ม
27. สร้าง Site Map ให้กับเวบของคุณ แล้วส่งให้ Google
28. ทำเสื้อขึ้นสกรีน URL เวบคุณลงไป แล้วก้ใส่มันบ่อยๆด้วย (อืม..คิดได้เนอะ - -")
29. เอาไปให้สาวสวยหุ่นเร้าใจใส่ด้วยซักตัว *-*
30. สมัคร Affiliate program เพื่อขายสินค้าของคุณ หรือว่าถ้าคุณเป็น Publisher ก็โกยเงินกัน!!
31. ในหน้า contact ถามด้วยว่า คุณสนใจจะรับ Newsletter มั้ย
32. ส่ง Newsletter !!
33. เข้าร่วมสัมมนาคนทำเวบ คุณอาจจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆก็ได้
34. หา Blog ดีๆ ดังๆ แล้วก็ไปตอบคอมเม้นไว้ (ใส่ลิ้งเวบคุณด้วยล่ะ)
35. อย่าจ้างคนให้ submit search engines ให้ เสียตังค์เปล่าๆ เพราะอันที่ดังๆมีแค่ Google 50% Yahoo 25% และ MSN 10%
36. ส่งคลิบเข้าพร้อมกับชื่อเวบคุณในคลิบ ที่ YouTube กับ Google Video
37. แจกฟรี e-book แล้วเวบคุณจะเป็นที่ฮือฮา
38. แจก Wordpress Theme, Blogger Theme, หรือ phpLD themes
39. ถ้าคุณขายของที่มีโฆษณาในทีวี เขียนในเวบคุณด้วยว่า "แบบที่เห็นในทีวี"
40. หลีกเลี่ยงเทคโนโลยีที่ไฮโซเกิน เช่น Java หรือ Active x
41. แจกของให้โหลดได้ ระวังลิขสิทธิ์ด้วย
42. เรียนรู้ CSS
43. ตอบคอมเม้น ยิ่งถ้าเป็น Blog ตอบบ่อยๆ
44. ขอให้เวบอื่น หรือ Blogger คนอื่นๆ ช่วย review เวบคุณ หรือว่า สินค้าก็ได้ (แลกกัน review ก็ดี)
45. ใช้ชื่อ page ที่มีความหมาย เช่น www.YoutDomain.com/keyword/keyword ไม่ใช่ www.yourdomain.com/pgInfoPages.cfm?cx=50799399822
46. ถ้าคุณจำเป็นจะต้องมี Flash ที่หน้าแรก อย่าลืมใส่ปุ่ม skip ด้วย
47. บอกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น หรือ วารสารประจำโรงเรียนเกี่ยวกับเวบของคุณ บางทีถ้าเค้าไม่มีเรื่องจะเขียน หน้าของคุณอาจจะไปโผล่ในนั้นก็ได้
48. จงดังในหมู่คนที่เขียนเรื่องเดียวกัน

เทคนิควิธีการสร้าง Link Popularity

       การที่เราจะมี PageRank ดีๆ ติดอันดับในการค้นหา เป็นอันดับต้นๆ ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องยากและก็ไม่ง่าย แต่ถ้ารู้วิธีการสร้าง Link Popularity แล้วละก็ ไม่ยากเลยครับ ซึ่งวิธีการสร้าง Link Popularity นี้เอง เป็นสิ่งที่นัก SEO ทั้งหลาย ต้องเรียนรู้และต้องสร้างให้ได้มากๆ จนถึงมากที่สุดเลยหล่ะครับ เอาละ เรามาดูวิธีการสร้าง Link Popularity กันเลยดีกว่า
1. ไป Comment ที่บล็อกคนอื่น
วิธีแรกเลยที่ผมมักจะทำบ่อยๆ ก็คือคอมเม้นท์ในบล็อกของคนอื่น ใจเขาใจเราหล่ะครับ เวลาเราทำบล็อกแล้วมีคนมาคอมเม้นท์ (ที่ไม่ใช่สแปม) เราก็จะรู้สึกดี และอยากจะคุยกับคนที่มาคอมเม้นท์ เพราะคนที่คอมเม้นท์ถือว่าเป็นคนที่สนใจเว็บบล็อกของเราจริงๆ ดังนั้นเราเม้นท์เขา เขาเม้นท์เรา ก็ถือเป็นการแลกเปลี่ยนลิงค์กันได้ด้วยนะครับ
2. Link ไปหาบล็อกอื่นก่อน
อย่ารอให้เขาลิงค์มาหาเราก่อน เราต้องลิงค์ไปหาเขาก่อนจะดีที่สุด เพราะเขาจะเห็นว่าเขามีความสำคัญ หลังจากนั้น เมื่อเราลิงค์ไปหาเขาแล้ว ก็เมล์ไปบอกว่าเราติดลิงค์ให้เขาแล้ว ถ้าไม่รบกวนเกินไปก็กรุณาลิงค์กลับมาด้วยนะครับ อะไรประมาณนี้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง หรือเว็บเราดีจริง รับรองว่าเขาต้องลิงค์กลับมาแน่นอนครับ
3. Submit บล็อกเข้าสู่ Search Engine ต่าง ๆ
ข้อนี้ต้องขยันนิดนึง เพราะคุณต้อง submit บล็อกของเราเข้าสู่ Search Engine ต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ ข้อได้เปรียบของบล็อกก็คือ คุณสามารถโปรโมทบล็อกไปสู่ search engine ของเว็บได้ และยังโปรโมทไปสู่ search engine เฉพาะทางเช่นพวก Blog Search Engine ได้อีกด้วย
4. ออกแบบบล็อกให้ดูดีสวยงาม
อันนี้ลองดู เว็บ Template สวยๆ ทั้งหลาย เช่น Templatemonster อันนี้ก็เจ๋งดี ดูเป็นแนวทางนะครับ อย่าไปก็อปเขามาทั้งดุ้น เอามาปรับแต่ง ใส่ไอเดียเราเข้าไป เพื่อให้เกิดเป็นเว็บตามสไตล์ของเราจริงๆ
5. ใช้ CSS ในการออกแบบบล็อก
ออกแบบเว็บด้วย CSS และใช้ Validator HTML ให้ผ่านด้วย ช่วยให้เว็บของเรามีโค้ดที่ดูง่ายสะอาด ทำให้ บอทต่างๆ วิ่งเก็บข้อมูลได้สะดวก การเชื่อมโยงลิงค์ทำได้ง่าย ช่วยให้การทำ SEO ของเรา ได้อันดับดีไปด้วย
6. ทำ Tag ไปหา technorati
วิธีง่ายๆ ก็คือ ไปสมัครสมาชิกที่เว็บ Technorari แล้วก็สร้างลิงค์เพื่อให้เชื่อมโยงมาที่เว็บเราอีกที ซึ่ง Technorati ถือว่าเป็น Blog Search Engine ที่มี PR สูง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกด้วย
7. ทำ signature เวลาตอบกระทู้ใน Web Board
เป็นวิธีที่หลายๆ คนชอบใช้ในการทำลิงค์มาที่เว็บของตัวเอง แต่ต้องดูด้วยนะครับว่าบอร์ดที่ไหนบ้าง ที่เราสามารถใส่ลายเซ็นต์ได้ บางแห่งอาจจะต้องมีเงื่อนไขด้วย ผมแนะนำ http://www.thaiseoboard.com เพราะได้ผลดี บอทเยอะ แต่ว่าต้องมีเงื่อนไขนิดหน่อย ต้องอ่านกติกาดีๆ นะครับ
8. Ping ไปที่ Blog Search Engine
ถ้าเราใช้ระบบบล็อกของ Wordpress เราสามารถ Ping Blog ได้ โดยการเข้าเว็บ ที่รับ ping หรือหาเว็บที่รวม ping list มาแล้วก็เอาไปใส่ในระบบของ Wordpress เวลาเราเขียนบล็อกแต่ละครั้งก็จะ ปิงไปที่เว็บนั้นๆ ให้อัตโนมัติ  ส่วนเว็บที่รวม ping list ลองเข้าไปอ่านได้ที่นี่นะครับ http://www.suansanook.com/wordpress
9. ใช้ Social Bookmark
เว็บ Digg ทั้งหลาย เกิดกันมากมาย ลองไปโพสต์ตามเว็บ Social Bookmark กันดูนะครับ อย่างเช่น Zickr, Dekdigg, Suansanook Dunweb เป็นต้น รับรองว่ามีลิงค์มาที่เว็บเราแน่นอน

credit:http://seo.teeneesanook.com

เทคนิคในการจัดทำ SEO โดยใช้ Google Adwords

               คำตอบของผมก็คือว่า เราสามารถนำ Google Adwords มาประยุกต์ใช้ในการทำ SEO ได้ และได้อย่างดีทีเดียวครับ ดังที่เพื่อนๆคงจะได้ทราบวิธีการทำงานของ Google Adwords กันไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า โฆษณาบน Google Adwords นั้น เป็นโฆษณาที่มีผลกับจิตใจของผู้เห็นโฆษณาภายในเสี้ยววินาทีเท่านั้น เท่ากับว่า ผลลัพธ์ SEO ที่ได้จากการโฆษณาบน Google Adwords นั้น เป็นผลลัพธ์ SEO ที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่าโพลใด ๆ ครับ เช่น ถ้าเรา ทำโฆษณาขึ้นมา 2 ชิ้น แล้วทำการโฆษณาแข่งกันบน Google หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์
สามารถที่จะสรุปเบื้องต้นได้แล้วว่า SEO ข้อความโฆษณาทางด้านซ้ายมือนั้น มีผลในการเรียกความสนใจของผู้ที่อ่านได้มากกว่า (ใน Keywords นั้นๆ) รวมทั้งการใช้ Google Adwords นั้น เราสามารถทำการทดสอบและปรับเปลี่ยนข้อความโฆษณาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เราสามารถหา Keywords และข้อความโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงได้โดยเร็ว
ดังนั้นถ้าหากเราจะใช้ประโยชน์จาก Google Adwords เพื่อเทคนิคการทำ SEO ของเว็บไซต์นั้น ผมแนะนำให้ทำดังนี้
• ลองทำการโฆษณาเว็บไซต์ของตนเองด้วย Google Adwords ก่อน เพื่อหา Keywords ข้อความโฆษณา และ landing page ที่มีประสิทธิภาพในการโฆษณาเว็บไซต์ของเราก่อน
• เมื่อเรามี Keyword และข้อความโฆษณาที่สามารถทำกำไรให้กับเราได้แล้ว ก็ลองนำ Keyword, ข้อความโฆษณา และ landing page ชุดนั้นไปโฆษณาบน PPC อื่นๆ เช่น Overture.com, Findwhat.com แล้วดูว่ายังสามารถทำกำไรให้เราได้หรือไม่
• ถ้าหากเราสามารถทำกำไรได้จาก Keyword , ข้อความโฆษณา และ landing page ชุดนั้น เราก็ค่อยทำ SEO เว็บไซต์ของเรา โดยการใช้ Keyword , ข้อความโฆษณา และ landing page ชุดนั้น โดยเราควรจะเลือกทำ SEO กับ Keyword ที่ทำกำไรให้กับเรามากที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก
ดังนั้นจะเห็นว่า Google Adwords นั้นจะช่วยให้ประโยชน์ในการทำ SEO โดยจะทำให้เราสามารถค้นหา Keywords, ข้อความโฆษณา และ landing page ที่มีความสัมพันธ์กัน ได้โดง่ายและรวดเร็วมากกว่าแต่ก่อนครับ / บทความวิธีหาเงินจาก google adsense
นอกจากนั้นการทำ SEO ด้วยวิธีนี้ ยังจะทำให้เราสามารถทำกำไรกลับมาได้สูง เพราะว่า เราเน้นการทำ SEO ในชุด Keyword, ข้อความโฆษณา และ landing page ที่สามารถทำกำไรกลับมาให้เราได้สูงอยู่แล้ว (เรารู้ตั้งแต่ก่อนทำ SEO แล้ว ด้วยการทดลองบน Google Adwords ถูกไหมครับ)
โดยสรุปแล้ว Google Adwords นั้นสามารถนำมาเป็นสื่อในการทดสอบการทำ SEO ได้นั่นเอง เพราะทำได้ง่ายดายกว่ามาก จนกระทั่งเมื่อไหร่ที่เรามี Keywords, ข้อความโฆษณา และ landing page ที่คิดว่าดีและทำกำไรได้แล้ว จึงค่อยนำสิ่งเหล่านั้นไปใช้ในการทำ SEO แบบทั่วไปครับ

การทำ SEO, เทคนิคการทำ SEO โดย Keyword

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimizer 
นั้นเป็นการทำให้โครงสร้างข้อมูลภายในเว็บของเราที่บรรจุอยู่ใน HTML ของเรา และพวก URL ของเรานั้น มีความหมายและทำให้ Crawler (ซึ่งต่อไปจะขอเรียกเป็น Search Engine เพื่อให้เข้าใจตรงกัน) นั้นสามารถเข้ามาเก็บข้อมูลในเนื้อหาของเราได้ง่าย และตรงกับความต้องการให้ได้มากที่สุด
ซึ่งโดยปกติแล้วจะแนะนำให้ใช้ XHTML ร่วมกับ CSS โดยที่ XHTML นั้นเป็นส่วนที่ใช้สำหรับใส่ข้อมูลและมี Tag พวก XHTML ต่าง ๆ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเนื้อหาให้น้อยที่สุด โดยมีแต่ส่วนที่กำหนดพื้นที่สำหรับแสดงผลต่าง ๆ เป็นชื่อที่สื่อความหมาย โดยใช้พวก <div> และ <span> แล้วกำหนดพื้นที่ของ Layout ด้วยชื่อที่กำหนดใน id หรือ class และโยนหน้าที่การกำหนด Layout ต่าง ๆ ไปที่ CSS ทั้งหมด เพื่อลดขนาดของไฟล์ HTML ที่ตัว Search Engine จะดึงไปเพื่อทำการ Parse ข้อมูลออกมา ทำให้ Search Engine ใช้เวลาประมวลผลต่าง ๆ ลดลงได้มากด้วย แถมลด B/W ลงไปได้เยอะมาก ๆ ในกรณีที่เว็บของเรานั้นมี Priority ในการเข้ามา index ข้อมูลของ Search Engine สูง ๆ
เทคนิดง่าย ๆ แต่ได้ผลนั้นผมสรุปจาก Best and Worst practices for designing a high traffic website อีกทีครับ
  1. ใส่ Keywords หลัก ๆ ลงบน Title เพราะเป็นพื้นที่ที่ระบบ Search Engine ใช้ในการเข้ามา index ข้อมูลอันดับแรก ๆ
  2. ใช้ tag Heading (พวก <h*></h*> ต่าง  ๆ) ให้เป็นประโยชน์เพื่อให้ Search Engine นั้นเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ๆ ในส่วนนี้ก่อนเสมอ เพราะ Search Engine จะมองว่า Heading เป็นเหมือนหัวหลักของเนื้อหาเพื่อนำไปใช้สรุปเนื้อหาตอนค้นหาต่อไป
  3. ใช้ alt, title, id, class และพวก caption ต่าง ๆ ที่ใช้อธิบายข้อมูลนั้น ๆ เพราะ Search Engine ไม่เข้าในว่ารูปภาพ หรือข้อมูลพวก Binary ต่าง ๆ ว่ามันคืออะไร
    เช่น <img src=”dog.jpg” alt=”Dog jumping into the air” />
  4. ใช้ META Tag ถึงแม้ว่า META Tag จะเป็นเทคนิคเก่า ๆ นับตั้งแต่มี WWW แต่ก็เป็นการดีที่เราควรจะมีไว้ เพราะ Search Engine ยังคงใช้ข้อมูลนี้เพื่อการจัดอับดับข้อมูลของเรา ในกรณีที่ข้อมูลในหน้านั้น ๆ มีมากเกินไป
  5. ใช้ Sitemapดยการสร้าง Sitemap นั้นมีเครืองมือให้ใช้อยู่มากมาย และยิ่งใช้พวก CMS/Blogware ต่าง ๆ พวก Drupal, Wordpress, XOOP, Joomla/Mambo, PHP-nuke ฯลฯ ก็มี module/component/plug-in เข้ามาช่วยสร้าง Sitemap ให้แทบทั้งนั้น โดยประโยชน์ของ Sitemap นั้นช่วยให้ตัว Search Engine นั้นไม่ต้องวิ่งไต่ไปตามลิงส์ต่าง ๆ ของเว็บของเราเพื่อเข้าถึงข้อมูลทั้งหมด และยิ่งเว็บมีขนาดใหญ่และซับซ้อนมาก ๆ ยิ่งทำให้หน้าที่อยู่ในส่วนของรากลึก ๆ ต้นไม้ที่เป็นลำดับของลิงส์นั้นเข้าถึงยาก การมี Sitemap จึงช่วยในการบ่งบอกกับ Search Engine ได้ว่าเว็บของเรามีหลายอะไรอยู่บ้าง เพื่อให้ตัว Search Engine เข้ามา Index ข้อมูลได้รวดเร็วและสะดวกขึ้น
  6. ทำ URL Friendly หรือ Rewrite URL การทำ URL Friendly นั้นช่วยให้ Search Engine เข้าใจ URL ของเราและทำให้การเก็บ URL และแสดงผล URL เพื่อลิงส์กลับมาหน้าต่าง ๆ ของเว็บเรานั้นทำได้ง่ายมากขึ้น

แบ่งปันเกี่ยวกับการใช้ Keyword กับ Blog MLMหรือ Website MLM ของคุณให้ถูกหลัก SEO ( Search Engine Optimization ) เพื่อให้ Blog MLM ของคุณถูกค้นพบง่ายขึ้น ต่อจากบทความที่แล้วกันเลยนะคะ
หลังจากที่คุณได้คัดสรร Keyword เด็ด ๆ โดน ๆ เพื่อนำมาจดโดเมนเนมมากมาย จนได้ชื่อที่ถูกใจคุณแล้ว ( แต่ไม่รู้ถูกใจผู้คน หรือ เข้าตากรรมการอย่าง Google ตัวแม่หรือเปล่า) ไม่ต้องวิตกกังวลไปนะคะ เพราะต่อจากนี้ไป สิ่งที่คุณจะปฎิบัติอย่างเคร่งครัดกับ Blog MLMของคุณกำลังจะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และจะมีผู้คนคลิกเข้า Blog MLM ของคุณเพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ
ก่อนอื่น ต้องออกตัวนี๊ดนึง ว่าตัวดิฉันเองไม่ใช่กูรูหรือเชี่ยวชาญอะไรนัก แต่ที่อยากจะแบ่งปันในเรื่องนี้ เพราะเห็นเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ กับเพื่อน ๆ ร่วมชะตากรรมเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมา ตัวดิฉันเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากเลย แต่ด้วยความที่ชอบที่จะเรียนรู้และทดลองทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ก็เลยพอมีประสบการณ์การทำ SEO ด้วยตัวเองมาแบ่งปันใน Blog ให้คุณได้อ่านในวันนี้ไงคะ
ร่ายมาซะยาว ใครถามไม่ทราบ? ไม่เป็นไรค่ะ เอาล่ะนะ เริ่มต้นเลยแล้วกัน ตั้งแต่หัวจรดท้าย แล้วคุณก็ทำตาม Step เลยนะคะ
วิธีการคัดเลือก Keyword ให้โดนใจเจ้าแม่ Google ต้องใส่ตรงไหน ใส่มากเท่าไร แล้วใส่รูปแบบยังไงนั้น สิ่งสำคัญที่สุด ก่อนที่คุณจะเริ่มเขียนเนื้อหาหรือบทความ คุณต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ได้ก่อน แล้วคิดต่อว่าเขาจะ Search ด้วยคำว่าอะไร … ติ๊กตอก ๆ ๆ ๆ
… คิดออกรึยังค่ะ ถ้าคิดออกแล้ว มาคิดต่อว่าเขาจะค้นหาคำว่าอะไรเป็นหลัก 1,2,3… แล้วนำคำเหล่านั้นไปวิเคราะห์ ด้วยการ Search หาดูว่ามีคนใช้ไปแล้วมากน้อยแค่ไหน เราควรจะปรับแต่ง Keyword ของเราอย่างไรให้มาเป็นคำที่โดนที่สุด โดยคุณอาจจะนำ Trend ของการใช้คำที่ทันสมัย คำที่ฮิตตลอดกาล คำที่มาจากละคร ภาพยนตร์ บทเพลง หรือคำอะไรก็ตามที่ช่วงนี้เขาใช้กัน มาปรับเข้ากับ Keyword ของคุณ แล้วก็เริ่มบรรเลงลงใน Blog ของคุณกันเลย
1. เริ่มจากชื่อหน้าเพจ หรือชื่อหน้า Blog MLM ของคุณ Keyword คำแรกสำคัญที่สุดค่ะ ส่วนคำที่ 2 ที่ 3 เรียงจากซ้ายไปขวานะคะ ความสำคัญจะลดหลั่นลงมาตามลำดับ เพื่อให้ Search Engine รับรู้ว่าหน้าเพจของคุณกำลังทำอะไร หรือขายอะไรอยู่
2. ชื่อบทความ หรือหัวข้อที่คุณจะเขียน Keyword ใน ส่วนนี้ จะต้องเป็นตัวอักษรที่เราต้องเน้น ขนาดก็ประมาณ H1,H2 เพื่อให้ Search Engine ได้รู้ว่าเป็นคำหลักก่อนเข้าสู่เนื้อหา แล้วเข้ามา Index ข้อมูลของเราในอันดับแรก ๆ
3. เนื้อหาเกริ่นนำในส่วนแรก หรือย่อหน้าแรก ควรจะมี Keyword อย่างน้อย 1-2 คำที่มีอยู่ในชื่อบทความของเราด้วย หรือ ถ้าไม่มี ให้คุณเน้น Keyword อื่นเป็นตัวหนา ตัวเอียง หรือขีดเส้นใต้
4. เนื้อหาส่วนกลาง ถ้าหากเนื้อหามาก คุณก็อาจแบ่งเป็น 2-3 ย่อหน้าก็ได้ค่ะ และควรจะมี Keyword ใส่เข้าไปอีกอย่างน้อยอีก 3-5 คำ
5. เนื้อหาสรุปส่วนสุดท้าย อย่าลืมใส่ Keyword ไปด้วยนะคะ เพราะเป็นการช่วยเน้นย้ำ โดยใส่เป็นตัวหนาหรือตัวเอียงก็ได้ค่ะ
6. การแทรก Keyword เข้าไปกับ Link ที่ต้องการเชื่อมโยง ก็สำคัญมาก ๆ อย่าลืมเชียวนะคะ
7. ใช้ Keyword ตั้งชื่อ รูปภาพ หรือชื่อไฟล์ประกอบในบทความ ก็เป็นตัวสื่อได้ดีทีเดียว ควรจะให้ชื่อสอดคล้องกับเนื้อหาด้วยนะคะ สมมติว่าไฟล์รูปเดิมของคุณเป็น Dx122535 ทาง Search Engine เขาไม่รู้จักหรอกค่ะว่าคืออะไร ไปเปลี่ยนซะนะจ๊ะ
8. การใช้ Keyword ในส่วนของ Menu ต่าง ๆ ที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นจุดสื่อได้ชัดเจนเลยว่าใน Blog MLM ของคุณครอบคลุมด้วยเรื่องอะไรบ้าง ในส่วนนี้ลองพยายามคิดหน่อยนะคะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดได้ยิ่งดีค่ะ
9. ในส่วนของ Tag อันนี้ของตาย ที่ทุกคนไม่พลาดแน่ที่จับยัดสารพัด Keyword เข้าไปให้มากที่สุด ทั้งคำที่เกี่ยวข้องกับ Blog MLM ของคุณโดยตรง กับคำที่คล้าย ๆ หรืออยู่ในวงการเดียวกับคุณ ก็นำมาใส่กันจนล้น …จริง ๆ แล้วไม่ต้องใส่เยอะจนรกหน้าจนเกินไป เลือกเฉพาะสำคัญ ๆ จริง เพราะดิฉันเคยเห็น Blog บางคน ไม่รู้ใช้ Theme อะไรมี Tag รกเต็มหน้าเลย บาง Blog ตัวอักษรขึ้นโชว์ซ้อนกันก็มี จนดูไม่เป็นระเบียบ ไม่น่าอ่านค่ะ
10. ข้อสุดท้าย ข้อนี้สำคัญมาก ๆ ค่ะ เมื่อคุณทำทุกข้อครบตามลำดับแล้ว ต่อไปเป็นการตรวจสอบในส่วนของ text html ซึ่งเป็นรูปแบบของ code ที่ Search Engine ชอบและเข้าใจง่ายกว่าแบบตัวอักษรธรรมดา
Code ต่าง ๆ ในบทความที่คุณต้องตรวจสอบก่อนโพสต์ ได้แก่  H1, H2, H3, H4, H5, H6, <a>, <b>, <i>, <u>,<img>, <script>, <div>, </body>, <head>  และ </html> ที่ต้องเน้นให้มี เพราะ Search Engine จะสื่อสารกันในรูปแบบ html  และ url ได้ดีกว่ารูปแบบตัวอักษร ยิ่งมีครบยิ่งดีค่ะ
และทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมา เป็นประสบการณ์ที่พิสูจน์ให้เห็นได้จริง ด้วยบทความของดิฉันเอง เกี่ยวกับการทำ SEO จำนวน 2 บทความ  ที่ทดสอบกับ Google ด้วยการใช้ Keyword  2 คำในการ Search ข้อมูลเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2553 ดังนี้
1. Blog MLM
ติดอันดับ 2-5 จากผลการค้นหา  3,480,000 รายการ
2. MLM  SEO
ติดอันดับ 3-5 จากผลการค้นหา  1,470,000 รายการ
3. Keyword MLM                 
ติดอันดับ 2 จากผลการค้นหา    674,000 รายการ 
และทั้งหมดนี้ ก็เป็นความรู้เบื้องต้นของมือใหม่หัดทำ SEO ด้วยตัวเองแล้วหล่ะค่ะ ไม่เห็นจะยากอย่างที่คิดไว้เลยใช่มั๊ย  เรื่องพื้น ๆ ทั้งนั้น  แค่ใส่ใจในรายละเอียดตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย ก็ได้ผลลัพธ์มาอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ  
แต่การทำ SEO ระดับปรมาจารย์ ขั้นเทพ ยังมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านี้อีกมาก ในส่วนของการวางโครงสร้างหน้าเว๊บไซต์ หรือการลิงค์ไปยังเว๊บไซต์อื่น ๆ  เป็นเรื่องของเซียน SEO ตัวจริงค่ะ พวกมือใหม่ทำกันได้เท่านี้ ก็ถือว่าสอบผ่านแล้วหล่ะค่ะ
ปล. เขียนบทความเสร็จแล้ว อย่าลืมนำไปโปรโมทนะจ๊ะ เพื่อน ๆ ทุกคน เพราะการโปรโมท Blog สำคัญอย่างยิ่ง ต่อการถูกค้นพบจาก Search Engine  อย่าลืม!!!!!

การใช้ Keyword ในการทำ Search engine Optimization หลายคนที่เป็นมือใหม่อาจไม่มั่นใจหรือใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ ควร หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางให้สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจหรือยังไม่รู้ว่าจะ ใช้ยังไง ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ อย่ามัวเสียเวลาครับเริ่มต้นกันเลย
1. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ (Title) ให้เราใส่ Keyword ที่เราต้องการจะใส่โดยให้น้ำหนักจากการเรียงจาก ซ้ายไปขวา
2. ใช้ keyword ที่บริเวณชื่อหัวข้อของเนื้อหา (Heading tag) โดยการใช้ H1,H2,H3 เป็นต้น
3. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ Keyword ไว้ในตำแหน่ง 20 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงก็ได้
4. ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link) คือการเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย
5. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของหน้า (The last content) เพื่อเน้นย้ำหรือใช้ในการสรุปเนื้อหาอาจจะใช้เป็นลักษณะตัวเอียงหรือหนาก็ ได้ครับ
6. ใช้ keyword ที่บริเวณ เมนูเลื่อนลง (Drop Down Menu) Drop down menu นี้เป็นที่ซ่อน Keyword ที่ดีอีกที่ที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ
7. ใช้ keyword ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ (Folder name, File name) วิธีนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจพอสมควรครับกับการทดลองใช้ในหลายๆ เว็บที่ผมลอง หากต้องใช้ Keyword มากกว่า 1พยางค์ ควรใช้เครื่องหมาย “-” เป็นตัวคั่นกลาง
8. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบายรูปภาพ (Images alt tag) การใช้ tag alt เข้าช่วยนั้นเพราะว่า Sreach engine นั้นไม่รู้จักรูปภาพเราสามารถบอก Sreach engine รู้ว่าภาพนั้นเป็นภาพของอะไรได้โดยใช้ tag alt นี้เข้าช่วย
9. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบาย ลิงค์ (Text link title) การใช้ text link title นั้นคลายการใช้ tag alt เพียงแต่ tag นี้ใช้อธิบาย link
10. ใช้ keyword จด Domain name ด้วย Keyword (Domain name register) การใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain name นั้นหากทำได้ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ