เทคนิคการขาย
เทคนิคการขายอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์
ในปัจจุบันการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันที่สูงมาก ผู้ซื้อมีตัวเลือกมากมายรวมถึงแหล่งข้อมูลในการค้นหาบ้านสักหลังจากที่ต้อง ขับรถตระเวนหาหรือติดต่อนายหน้าเพื่อหาบ้านที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง ช่องทางหนึ่งในการซื้อหรือขายบ้านที่รวดเร็ว และสะดวกที่สุดได้แก่การใช้บริการเว็บไซต์ที่ให้บริการเป็นตัวแทนขายบ้าน หรือให้ผู้ขายประกาศขายบ้านออนไลน์บนเว็บไซต์ ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าการใช้บริการนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในท้อง ถิ่น และเพิ่มผลกำไรได้มากกว่าจากการที่ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับนายหน้า ซื้อขายบ้าน รวมถึงความสามารถในการเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นการ เพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้นกว่าในอดีต จะเห็นได้ว่าการขายอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ มีข้อดีอยู่มากมาย ดังนั้นเราจะมาดูถึงเทคนิค และเกร็ดต่างๆ ในการที่จะขายออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
1. ลงประกาศที่ดึงดูดความสนใจผู้ซื้อ
ปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างมากสำหรับผู้ขายบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ซื้อสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายทำให้มีโอกาสในการเลือกมากขึ้น ดังนั้นการลงประกาศที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อเป็นสิ่งสำคัญในการ เพิ่มโอกาสในการขายของเราให้ได้ผลตามต้องการ เพื่อให้ผู้ซื้อที่สนใจเริ่มติดต่อเราเพื่อทำการซื้อขาย ซึ่งทำได้โดยการให้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของผู้ซื้ออย่างครบถ้วน โดยผู้ซื้อจะค้นหาบ้าน หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆไม่ว่าจะเป็น คอนโด หอพัก แมนชั่น ที่ต้องการทราบหลักๆได้แก่ ราคา สถานที่ และจำนวนห้องซึ่งบอกได้ถึงลักษณะของที่พักอาศัยนั้นๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สถานที่
เนื่องจากการลงประกาศในเว็บไซต์ไม่ได้จำกัดกลุ่มของผู้ซื้อเหมือนกันติด ป้ายประกาศตามท้องถนนหรืออาคารซึ่งผู้ที่พบเห็นมักเป็นคนในละแวกนั้นหรือ ตั้งใจที่จะเข้าไปค้นหาที่อยู่อาศัยในแหล่งนั้นๆ ในทางกลับกันการลงประกาศในเว็บไซต์มีกลุ่มผู้ซื้อที่มาจากหลายๆสถานที่ทั่ว ประเทศ ดังนั้นการระบุข้อมูลสถานที่อย่างละเอียดเป็นสิ่งจำเป็นเช่นนอกเหนือจาก จังหวัด เขตหรืออำเภอแล้ว เราอาจระบุละเอียดลงไปอีกในระดับ ถนน ซอย หรือสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จัก นอกจากนั้นอาจมีการให้แผนที่ประกอบ (ซึ่งใน Tophome.in.th ของเรานั้น ท่านสามารถระบุพื้นที่ในแผนที่ได้ง่ายๆ โดยการปักหมุดบนเขตพื้นที่ที่ต้องการเพื่อให้ผู้ซื้อทราบได้ทันทีว่าบ้านที่ ประกาศขายอยู่ในขอบเขตที่ผู้ซื้อต้องการหรือไม่อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นหากผู้ซื้อสนใจยังสามารถเข้าไปยังสถานที่จริงได้อย่างสะดวก
ราคา
ผู้ซื้อมักมีงบประมาณที่ต้องการอยู่ในใจอยู่แล้วในระดับหนึ่ง ดังนั้นการให้ข้อมูลราคาที่เสนอขายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจ รวมถึงดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อได้ถ้าเป็นราคาที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นบ้านหรือสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั่วไปผู้ซื้อจะ พิจารณาประกาศอื่นๆ ที่มีการระบุราคาขั้นต้นก่อนที่จะตัดสินใจติดต่อไปยังผู้ขาย
จำนวนห้อง และขนาดของบ้าน
ทั้งจำนวนห้องทั้งหมด และจำนวนห้องนอน และห้องน้ำเป็นสิ่งที่บอกถึงลักษณะของบ้านหรือที่พักอาศัยนั้นๆว่าเหมาะสม กับความต้องการของผู้ซื้อหรือไม่ การระบุข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนห้องรวมถึงขนาดของบ้านทำให้ผู้ซื้อสามารถรู้ถึง แบบแปลนของบ้านอย่างคร่าวๆ โดยไม่ต้องไปดูถึงสถานที่จริง นอกจากนั้นขนาดของบ้านยังทำให้ผู้ซื้อทราบว่าราคาของบ้านที่เสนอมีความเหมาะ สมกับบ้านนั้นๆ หรือไม่จากราคาประเมินต่อพื้นที่ซึ่งผู้ซื้อสามารถหาข้อมูลได้
รูปภาพบ้าน
การใส่รูปภาพยิ่งมากยิ่งดี ความชัดเจนและความสวยงามในการแสดงรูปภาพ เป็นจุดที่สามารถดึงความสนใจของผู้ซื้อให้เข้ามาดูประกาศของเรา เนื่องจากทำให้ผู้ซื้อสามารถเห็นถึงบ้านในมุมต่างๆ ได้อย่างละเอียดโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางไปยังสถานที่จริง รูปภาพที่ชัดเจนและสวยงามสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อได้มากกว่าข้อความ เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามรูปภาพที่ใช้ควรเป็นรูปภาพที่เน้นถึงส่วนที่สำคัญของบ้าน เช่น ภาพบ้านทั้งหลัง ห้องนอน ห้องน้ำ เป็นต้น การใช้รูปภาพที่ไม่ชัดเจน เช่น บันไดบ้าน ระเบียงบ้านที่ผู้ซื้อดูแล้วไม่สามารถเห็นลักษณะของบ้านได้อย่างชัดเจนนอก จากจะไม่เป็นที่สนใจแล้วยังทำให้หน้าเว็บเพจโหลดได้ช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงขนาดของภาพที่ไม่ควรใหญ่จนเกินไปซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่เข้ามาดูต้องคอย หน้าเว็บนานมากขึ้น
เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์
เป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องใช้ในการติดต่อถ้าผู้ซื้อสนใจประกาศของเรา
หัวข้อประกาศ
นับเป็นเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อให้คลิกเข้ามาดูราย ละเอียดเพิ่มเติมซึ่งอยู่ด้านใน โดยส่วนหัวข้อจะเป็นข้อความสั้นๆที่อธิบายถึงลักษณะสำคัญของบ้าน หรือสินทรัพย์ที่เราต้องการจะขาย สำหรับในส่วนนี้เราจะสามารถเขียนข้อความได้อย่างจำกัด ดังนั้นควรคิดคำต่างๆ ให้ดีก่อนเขียนหัวข้อประกาศ โดยการมองในมุมของผู้ซื้อที่มีโอกาสเข้ามาพิจารณาสินทรัพย์ของเราว่ามีความ ต้องการและกำลังมองหาอะไรบ้าง เช่น "บ้าน 2 ชั้น" หรือ "คอนโดลุมพินี" สถานที่ตั้งเช่น "มีนบุรี" หรือ "ปิ่นเกล้า" รวมทั้งจุดเด่นของบ้าน เช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าว อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราคิดว่าน่าสนใจอาจจะไม่น่าสนใจสำหรับทุกคน เช่น อยู่ติดทางด่วน ซึ่งเรามองว่าเป็นข้อดีเนื่องจากสามารถเดินทางได้สะดวก สำหรับบางคนอาจนึกถึงเสียงรถที่ดัง ฝุ่นควัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อไม่ต้องการเป็นต้น ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาคีย์เวิร์ดที่ใช้ให้ดี นอกจากนั้นคำที่ใช้ในหัวข้อประกาศยังส่งผลในการค้นหาจาก Search Engine อีกด้วย
2. ตั้งราคาให้เหมาะสม
ราคาเป็นข้อมูลสำคัญอย่างหนึ่งที่คัดกรองผู้ซื้อที่เหมาะสม และมีความสามารถในการซื้อสินทรัพย์ที่เราต้องการจะขาย สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การขายบ้านใช้เวลานานมาจากการตั้งราคาที่สูงเกินไป ซึ่งถ้าเราต้องการที่จะขายบ้านออกไปได้ด้วยความรวดเร็วเราจำเป็นที่จะต้อง ตั้งราคาให้เหมาะสมในสายตาของผู้ซื้อ รวมถึงการลดราคาลงให้ต่ำกว่าเล็กน้อยในกรณีที่ต้องการขายอย่างเร่งด่วน สำหรับการตั้งราคาอย่างเหมาะสมโดยทั่วไปจะมีหลักการตั้งราคาอยู่ 2 วิธี ได้แก่ การตั้งราคาตามราคาตลาด และการตั้งตามราคาพื้นฐานหรือราคาประเมิน รวมถึงอาจใช้ทั้ง 2 แบบร่วมกันในการตั้งราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ความต้องการของเราเอง
การตั้งราคาโดยอ้างอิงราคาตลาด
เราสามารถหาราคาที่เหมาะสมได้โดยสังเกตและเปรียบเทียบราคากับบ้านที่มี การตั้งราคาขายกันตามท้องตลาด เช่น ป้ายประกาศขายบ้านละแวกเดียวกับบ้านของเราว่ามีราคาประมาณเท่าไหร่ หรือการเปรียบเทียบราคากับผู้ประกาศขายบ้านรายอื่นๆ ที่ประกาศขายในอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย รวมถึงผู้ซื้อเองก็มักจะเปรียบเทียบก่อนพิจารณาซื้อเช่นเดียวกันเนื่องจาก สามารถหาข้อมูลมาเปรียบเทียบได้ง่ายจากเว็บไซต์ที่ให้บริการขายบ้านที่มี อยู่จำนวนมาก ซึ่งการตั้งราคาตามราคาตลาดอาจจะสูงหรือต่ำกว่าราคาพื้นฐานของบ้านขึ้นกับ ปัจจัยต่างๆ ในขณะที่มีการขายบ้าน เช่น สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีอาจทำให้ราคาตลาดลดลง ในขณะที่ข่าวการสร้างรถไฟฟ้าใกล้บ้านอาจทำให้ราคาตลาดเพิ่มสูงขึ้นเป็นต้น ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องติดตามและตั้งราคาให้เหมาะสมอยู่เสมอ
การตั้งราคาโดยใช้ราคาพื้นฐาน
เป็นการตั้งราคาโดยใช้การประเมินราคาตามคุณสมบัติของอสังหาริมทรัพย์ นั้นๆ เช่น ขนาดและตำแหน่งของที่ดิน ขนาดของบ้าน เป็นต้น ซึ่งราคาประเมินยังมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อในกรณีที่ต้องทำการกู้ยืม เงินจากสถาบันการเงินในการนำมาซื้อบ้านของเรา โดยสถาบันการเงินมักจะให้กู้ยืมเงินไม่เกินราคาประเมิน ดังนั้นถ้าเราตั้งราคาสูงกว่าราคาประเมินมากเกินไปผู้ซื้ออาจไม่มีกำลังใน การหาเงินมาเพื่อซื้อบ้านจากเราทำให้โอกาสในการปิดการขายให้รวดเร็วอาจทำได้ ยากมากขึ้น สำหรับราคาประเมินเราสามารถหาได้โดยวิธีการต่างๆ เช่น การใช้บริการของตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปซึ่งมักจะมีบริการ ประเมินราคาให้สำหรับลูกค้า หรือเว็บไซต์ที่ให้บริการประเมินราคาทางอินเทอร์เน็ตต่างๆ รวมไปถึงการค้าหาข้อมูลด้วยตนเองโดยใช้เลขที่โฉนดหรือเลขที่ดินจากเว็บไซ ต์ของ กรมธนารักษ์ ราคาประเมินทรัพย์สินที่เป็นสิ่งปลูกสร้าง และ อาคารชุด ซึ่ง ราคาประเมิน = ราคาที่ดิน + ราคาสิ่งปลูกสร้าง - ค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้าง เมื่อเราได้ราคาทั้งราคาตลาดและราคาประเมินมาแล้วเราก็สามารถที่จะหาราคาที่ เหมาะสมที่สามารถดึงดูดผู้ซื้อให้สนใจทรัพย์สินที่เราต้องการขาย โดยไม่เป็นการเอาเปรียบผู้ซื้อ และได้ผลตามที่เราต้องการซึ่งสามารถแข่งขันกับผู้ขายรายอื่นๆที่มีอยู่มาก มายได้
3. ใช้ search engine ให้เป็นประโยชน์
การตั้งประกาศบนเว็บไซต์มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ซื้อสนใจ และเข้ามาดูรายละเอียดจนถึงติดต่อเราเพื่อดำเนินกระบวนการซื้อขายต่อไป ยิ่งมีผู้ซื้อเห็นประกาศมากเท่าไหร่ย่อมเปิดโอกาสให้มีการติดต่อเพื่อการ ซื้อขายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องหาทางให้ผู้ซื้อมีโอกาสที่จะเห็นประกาศของเรามากที่สุด เท่าที่จะทำได้ วิธีที่มักจะทำกันคือ การหาเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากหลายๆ เว็บไซต์ และโพสต์ประกาศในหลายๆ เว็บไซต์ อย่างไรก็ตามเรามักจะลืมใส่ใจรายละเอียดของประกาศของเรา ซึ่งส่งผลต่อการแสดงผลใน search engine ต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องมืออันดับแรกสำหรับผู้ซื้อในการค้นหาบ้านผ่านทางอิน เทอร์เน็ต
Search engine ที่เป็นที่นิยมต่างๆ เช่น google.com, yahoo.com, sanook.com เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงประกาศของเราได้โดยตรงซึ่ง เพิ่มโอกาสในการเจอประกาศนอกเหนือไปจากจำนวนของผู้ใช้งานภายในเว็บไซต์ซื้อ ขายหนึ่งๆ อย่างไรก็ตามการทำให้ประกาศของเราถูกพบโดย Search engine โดยเฉพาะหน้าแรกๆ นั้นไม่ง่าย แต่วิธีการในการตั้งประกาศก็ไม่ยากเกินไปเมื่อเทียบกับการลงประกาศในหลายๆ เว็บไซต์ โดยสิ่งที่เราควรคำนึงในการตั้งประกาศเพื่อให้ประกาศของเรามีโอกาสเจอใน search engine โดยผู้ใช้งานมีดังนี้
หัวข้อประกาศ
เป็นส่วนที่สำคัญ นอกเหนือไปจากการดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อในเว็บไซต์แล้วยังส่งผลต่อการค้น หาของ search engine อีกด้วย ดังนั้นภายในหัวข้อประกาศจึงควรมีคำสำคัญที่ผู้ซื้อใช้ในการค้นหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเฉพาะเช่น ชื่อโครงการ หมู่บ้าน หรือลักษณะเฉพาะตัวของบ้านของเรา การที่มีคำเฉพาะเจาะจงทำให้รายชื่อเว็บที่มีคำดังกล่าวมีจำนวนน้อยกว่าคำ ทั่วๆ ไปเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่งผลให้อันดับของเราภายใน search engine มีโอกาสที่จะสูงกว่าด้วย
รายละเอียดประกาศ
เป็นส่วนที่ไม่ควรมองข้าม ข้อมูลในส่วนนี้ควรระบุคำสำคัญต่างๆ ที่เราต้องการให้ค้นหาหน้าประกาศของเราเจอจากการค้นหาคำนั้นๆ ของผู้ซื้อ ซึ่งมักจะเป็นรูปแบบคำคั่นด้วย "," เช่น บ้านแลนด์ แอน เฮ้าส์,พระราม 2 เป็นต้น
จากเกร็ดข้อมูลต่างๆ ข้างต้นน่าจะทำให้ผลของการขายอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นการยากในการเอาใจใส่รายละเอียดเล็กน้อยและไม่ยุ่งยากในการนำไป ใช้ด้วย หวังว่าเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะช่วยให้ท่านทำการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการนะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น