100 ข้อคิด พิชิตความสำเร็จ ที่พนักงานประจำต้องอ่าน
1.เวลามีคนพูดว่าเราทำไม่ได้ ให้คิดไปเลยว่าคนที่ทำไม่ได้คือคนพูดไม่ใช่เรา ทำไม่ได้นั่นเรื่องของเขาเราไม่เกี่ยว เวลาคนทั่วไปทำอะไรไม่สำเร็จเขาจะเหมารวมว่าคนอื่นก็คงทำไม่สำเร็จด้วย ทั้งที่ความเป็นจริงความล้มเหลวไม่มีจริง มันมีแต่ล้มเลิกไปก่อนทั้งนั้น
2.ที่คนอื่นบอกว่าเราทำไม่ถูก เราทำไม่ถูกต้องจริง หรือแท้ที่จริงแค่ทำไม่ถูกใจ ถ้าคิดดีแล้วว่ามันใช่ก็ตัดสินใจลุยทำไปโลด
3.ทำนี่ก็โดนบ่น ทำโน่นก็โดนด่า ขนาดไม่ทำอะไรยังมีคนมาหาว่านี่วันๆไม่คิดจะทำอะไรหรอ เลือกทางที่ใช่ที่สุดกับเราก็พอ
4.ความดังมักสำคัญกว่าความเก่ง เพราะเก่งแต่ไม่มีใครรู้จักก็จบ เก่งประมานหนึ่งแต่รู้จักในวงกว้างดีกว่า
5.เวลาทำอะไรใหม่ๆแรกๆเราอาจถูกมองเป็นตัวตลก แต่พอเราทำมันสำเร็จ คนที่หัวเราะเยาะเราจะยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิม
6.อยู่ห่างคนคิดลบ คนคิดลบชอบบ่นแต่ไม่ชอบทำ คนบ่นเขาจะมีความรู้สึกว่าตัวเองโดนเอาเปรียบ ชอบทำตัวขัดขวางผู้อื่น ถ่วงความเจริญ เป็นเหตุให้คนรอบข้างคอยขี้เกียจไปด้วย รู้สึกไม่อยากทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ห่างเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระของสมอง
7.ความเชื่อไหนก็ตามที่มันขัดกับความเชื่อของคนสำเร็จ เชื่อคนสำเร็จดีกว่า
8.เคารพผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ที่ว่านี้ ไม่ใช่คนอายุเยอะ หากแต่เป็นผู้ใหญ่ทางความคิด คนที่ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ แต่ความคิดเป็นผู้ใหญ่ บุคคลผู้นั้น "ย่อมน่าเคารพนับถือ"
9.ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ชีวิตตามความเห็นของใคร ถ้าคิดดูแล้วว่าแบบนี้แหละใช่ ก็อยู่ได้สบายเลย
10.ความกลัว ไม่มั่นใจ ทำให้ไม่ก้าวหน้า เลิกกลัวแล้วจงกล้าจะผลักดันเราไปข้างหน้ายังจุดที่ดีกว่าเสมอ
11.ใช้อีโก้บังคับตัวเองให้แพ้ไม่ได้ดีกว่าใช้น้ำลายของใครก็ไม่รู้มาดับฝันของตัวเอง
12.เชื่อความจริงที่พิสูจน์ได้ดีกว่าเชื่อน้ำลายที่ไม่มีค่า
13.เมื่อเจอปัญหาดีใจได้เลยว่านี่แหละโอกาส เพราะปัญหาที่คุณเจอมันก็เป็นปัญหาเดิมๆกับที่คนอื่นเจอ อยู่ที่ว่าใครจะเจอก่อนหรือเจอหลัง ถ้าเราแก้หรือผ่านปัญหานั้นไปได้ปัญหาที่ว่าเคยยากแสนยากมันก็ง่ายแสนง่ายใครแก้ได้ก็มีโอกาสมากกว่า
14.อะไรก็แล้วแต่ที่มันเพิ่มมูลค่าได้เองในตัวของมันเราเรียกมันว่าทรัพย์สิน ส่วนอะไรก็ตามที่มันลดมูลค่าลงเรื่อยๆคนรวยไม่ใช่คนที่มีเงินเยอะแต่คือคนที่มีทรัพย์สินเยอะเพราะทรัพย์สินนั้นเพิ่มมูลค่าส่วนเงินเฟ้อทุกปี
15.อย่าไปเสียเวลาบอกคนอื่นว่าเราจะทำนู่นทำนี่ แต่ให้ตอกย้ำกับใจเราเองว่าเราจะทำและจะทำมันให้ได้แล้วไปลงมือทำ
16.อย่าเสียเวลาไปขอให้คนอื่นเชื่อคุณ ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ เพราะมีไม่กี่คนหรอกที่จะเชื่อ เผลอๆอาจไม่มีใครเชื่อคุณเลยด้วยซ้ำ แถมคุณอาจจะโดนหัวเราะเยาะ ดังนั้น ตั้งสติให้ไว มั่นใจ แล้วลุยเลย คนที่หัวเราะเยาะคุณจะยังไปไม่ถึงไหน และเมื่อคุณทำได้เดี๋ยวคนเหล่านั้นก็จะเชื่อแล้วหันมายกย่องเหมือนกับไม่เคยหัวเราะเยาะคุณมาก่อน
17.ถ้าอยากมีหน้าที่การงาน ให้อ่านหนังสือเรียน แต่ถ้าอยากมั่งคั่งร่ำรวยให้อ่านแนวคิดของคนรวย อย่างหนังสือพ่อรวยสอนลูก หรือหนังสือพัฒนาตนเองพัฒนาแนวความคิดเพราะเจ้าความคิดคือตัวกำหนดชะตาชีวิต เช่น เวลาถูกหมอดูทักว่า เฮ้ยปีนี้เป็นปีชงของคุณ แล้วคุณก็ไปเก็บมันมาคิดแล้วชีวิตก็ไม่ไปไหน
18.คนเก่งคือคนที่เรียนรู้และพัฒนาจากความล้มเหลวของตัวเองจนเก่ง คนฉลาดจะเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นและคนสำเร็จคือคนที่ลงมือทำ
19.ทุกความสำเร็จมักทิ้งร่องรอยไว้เสมอ เราจะมองเห็นในสิ่งที่เรามองหา ถ้าต้องการสิ่งไหนคุณก็จะเจอสิ่งนั้น
20.อยากเก่งเรื่องไหนให้เรียนรู้จากคนที่เก่งในเรื่องนั้นๆเพราะชีวิตคนเรามันสั้น คุณไม่จำเป็นต้องไปลองผิดลองถูกเองก็ได้มันจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาไม่ล้มเลิกความตั้งใจไปเสียก่อน
21.เวลาลงมือทำคุณต้องมีโค้ชหรือพี่เลี้ยงเพราะเขาจะคอยบอกทางคุณไม่ให้เดินหลงทาง
22.ทำชีวิตเราให้เป็นที่น่าอิจฉาดีกว่าไปนั่งอิจฉาชีวิตผู้อื่น
23.เรื่องอะไรก็ตามที่เราน่าจะรู้แต่เราไม่รู้จงตัดสินใจถามเพราะทุกครั้งที่ถามเราอาจดูเป็นเหมือนคนโง่อยู่สัก 5-10นาที แต่หลังจากนั้นเราก็จะไม่โง่อีกแล้ว ดีกว่าต้องโง่ไปทั้งชีวิต
24.ประทับทักษะคนเก่ง คือ จดจ้อง จดจำ แล้วปฏิบัติ คิดซะว่าเราเป็นเขา กำลังทำสิ่งนั้นอยู่และทำได้ดีเลยทีเดียว มันจะช่วยให้เรามองเห็นภาพของตัวเองบนวิมานในอากาศได้ชัดเจนขึ้น เพราะก่อนจะทำอะไรก็แล้วแต่ให้สำเร็จเราต้องมองเห็นภาพไว้ก่อนหน้าแล้วอย่างชัดเจน
25.การศึกษาใบปริญญา หรือเกรดดีๆ ไม่ใช่คีย์ของความสำเร็จมันเป็นแค่ทางผ่าน เส้นทางหนึ่งและมีอีกหลายทางที่ให้เราเลือกเดินไปสู่ความสำเร็จ คนที่บอกว่าชีวิตไม่มีทางเลือกน่ะไม่จริงหรอก มันแค่ไม่เลือกเลยสักทางต่างหากล่ะ หรือจะเถียง
26.จะขายข้าวแกง ข้าวเกียรบ หรือข้าวเหนียวหมูปิ้งหรือแม้แต่การขายตัวเอง ไม่ใช่การขายตัวนะครับ แต่เป็นการขายความเป็นตัวคุณ มันก็รวยได้ทั้งนั้น เพราะคีย์ของมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าขายอะไร แต่อยู่ที่ว่าเรามีแนวคิดอย่างไร ถ้าเข้าใจโมเดลธุรกิจ ทำให้เจ๊งยังยากเลย
27.คนเก่งขายคุณภาพส่วนคนฉลาดขายอารมณ์
28.ความเก่ง ความสามารถ จะทำให้เราไปได้ไกลในระดับหนึ่งแต่ความสามารถในการทำให้คนเก่งอยากทำงานกับเราจะทำให้เราไปได้ไกลกว่า
29.ความเชื่อมาก่อนความจริง ถ้าไม่มีคนเชื่อว่าเหล็กหนักเป็นพันตันจะสามารถลอยขึ้นบนอากาศได้ ทุกวันนี้เราคงไม่มีเครื่องบินขี่
30.มองเรื่องธรรมดาในแบบที่ไม่ธรรมดา ถ้าไอแซกนิวตันไม่สงสัยว่าแอ๊ปเปิ้ลมันหล่นมาใส่หัวได้ยังไงก็คงไม่มีใครรู้เรื่องแรงดึงดูดของโลก
31.เราจะเป็นคนยังไงขึ้นอยู่กับเพื่อนที่คบ สังคมที่อยู่ หนังสือที่อ่าน ฉะนั้นอยากเป็นคนแบบไหนพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในบรรยากาศของสังคมแบบนั้นๆ ถ้าไม่มีสังคมที่เราต้องการมี 2-3 วิธี 1.จมปลักอยู่กับสังคมแบบเดิมถ้าสังคมเดิมของคุณมันตอบโจทย์รสนิยมคุณได้ 2.หาสังคมที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด 3.สร้างสังคมใหม่ขึ้นมา
32.อย่าไปพูดเรื่องบินสูงในฝูงไก่ เพราะไก่ไม่เข้าใจและสุดท้ายเขาจะทำให้เราเสียกำลังใจ เวลาผมมีโปรเจค หรือ ไอเดียร์ดีๆ ผมจะเก็บไว้คุยแค่เฉพาะคนที่คิดเหมือนกันเท่านั้น เพราะไม่อยากถูกหักปีกด้วยคำพูดที่ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก มึงบ้าไปแล้ว ค่อนข้างที่จะเพี้ยน เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน สารพัดที่เขาจะพูดให้คุณเสียกำลังใจ
33.ทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มักถูกลงความเห็นว่ามันเป็นไปไม่ได้
34.อุปสรรคมันก็แค่บททดสอบ เมื่อก่อนเรายังผ่านมันมาได้ครั้งนี้ก็เช่นกันมันก็เป็นเพียงแค่อีกวันนึงปะที่เราเองก็จะต้องผ่านมันไปได้ เหมือนทุกๆครั้งที่เจอ และคงไม่มีอะไรดีขึ้นมาเองได้ถ้าเราไม่แก้ปัญหา คำว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองเป็นคำพูดของคนไม่สู้ ขี้แพ้ มันจะไม่มีอะไรดีขึ้นถ้าเราไม่ทำให้มันดีขึ้นมา
35.คนล้มเหลวชอบหาข้ออ้างให้ตัวเองล้มเหลว ส่วนคนสำเร็จชอบหาข้ออ้างให้ตัวเองสำเร็จคนล้มเหลวมักพูดว่า ฉันทำไม่ได้หรอก คนสำเร็จมักพูดว่าฉันจะทำมันได้อย่างไร ประโยคแรกเป็นประโยคบอกเล่าพูดเสร็จก็จบความฝันลงตรงนั้น ส่วนประโยคที่สอง พูดจบทำให้เราคิดหาวิธีการทำมัน ไม่ใช่ว่าเราจะทำทุกอย่างตามที่คิด แต่เราจะฝึกคิดเพื่อให้ตัวเองฉลาดขึ้นเพราะสมองมันจะไปค้นหาคำตอบเมื่อโดนตั้งคำถามนั้นบ่อยๆ
36.ไอเดียร์ดีๆได้จากการสังเกตเห็นบ้าง ตอนเดินเล่น ขับรถ อาบน้ำ ปั่นจักรยาน หรือจากการอ่าน แต่ประสบการณ์จะได้จากการลงมือทำจริง
37.ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ คนที่พูดคำว่าทำไม่ได้ คือคนไม่ได้ทำหรือทำไม่สุดทำแล้วเลิกไปก่อน
38.คนที่คิดและทำไม่เหมือนคนส่วนใหญ่มักถูกมองว่าบ้า สำหรับผม ผมมองว่า ถ้าเรารู้ว่าเราทำเพื่ออะไรมีจุดหมายชัดเจนถือว่าเยี่ยม ผิดกับคนที่ทำไปโดยไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไรนั่นน่ะบ้าชัดๆ
39.อย่าบ่น เพราะคนบ่นคือคนคิดลบ คนคิดลบมักไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตเขาจะมองทุกอย่างเป็นปัญหา เมื่อเห็นแต่ปัญหาปัญหาก็ไม่เกิด หาไม่เจอทางออกของปัญหา
40.คนที่มีอคติกับเราเขาจะพยายามหาทุกเหตุผลมาขัดแย้งกับเรา ต่อให้เรามีเหตุผลที่ดีก็ไม่มีประโยชน์ที่จะไปต่อล้อต่อเถียงเพราะเราไม่มีทางชนะ
41.เมื่อเกิดปัญหา อย่ามองหาคนผิด เพราะไม่มีใครอยากผิด แต่ควรช่วยกันแก้ปัญหาจะดีกว่า
42.คนอวดดีกับคนมีดีนั้นต่างกัน คนอวดดีไม่มีอะไรดี คนมีดีไม่อวดดี
43.เมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าเวลาเราอ่อนแอ “มันก็ท้อ” เปรียบเทียบกับคนที่แย่กว่าเวลาเราแข็งแกร่ง “เราก็ไม่พัฒนา” เมื่อเราอ่อนแอควรเปรียบเทียบกับคนที่แย่กว่า(มีกำลังใจ) และเมื่อเก่งกล้าควรเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่าแล้วพัฒนาตนเอง
44.ในโลกนี้ไม่มีคนโง่ มีแต่คนที่รู้กับไม่รู้ ไม่มีคนโง่เพราะความไม่รู้ ความโง่เขาที่แท้จริงคือการไม่ยอมเรียนรู้อะไรเลยต่างหาก
45.ไม่ว่าทำอะไรก็ตามถ้าชัดเจนในสิ่งที่ทำมากพอ สักวันหนึ่งก็จะมีคนเข้าใจในสิ่งที่เราทำ แต่หากไม่ชำเจนในสิ่งที่ทำก็อย่าหวังว่าจะมีคนมาเข้าใจ และถ้าหากต้องรอให้คนทั้งโลกมาเข้าใจชาตินี้ก็คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
46.คนที่แข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่ล้มลงมีโอกาสสำเร็จมากกว่าคนที่อ่อนแอสิ้นหวังทุกครั้งที่ล้ม
47.ในชีวิตจริงเราจะเจอคนอยู่ 3 ประเภท คือ 1.คนที่ชอบเราไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม 2.คนที่เกลียดเราไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม และ 3.คนที่เฉยๆกับเราไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม คิดไว้เสมอว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบเรา
48.ขยะเหม็นเน่าต้องทิ้งถูกที่ เรื่องไม่ดีอย่าเอาไปเผยแพร่ เพราะเมื่อทิ้งขยะไม่ถูกทาง สภาพแวดล้อมแย่ ก็จะดึงดูแต่เรื่องแย่ๆเข้ามาในชีวิต บ่นลงเฟสบุ๊คว่าชีวิตมันแย่อย่างนั้นแย่อย่างนี้ ไม่มีประโยชน์เลยครับ เพราะเมื่อคนอื่นรู้ไป เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากซ้ำเติม จริง!
49.อยากลำบากให้ขายแรงกาย แต่ถ้าอยากสบายให้ขายไอเดียร์
50.ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่ามากกว่าหวย เคยได้ยินคำนี้ไหม คนจนซื้อหวยคนรวยซื้อหุ้น ทรัพย์สินของคุณจะเป็นอะไรก็ได้ที่เมื่อเวลาผ่านไปมันเพิ่มมูลค่าขึ้นได้ด้วยตัวมันเอง มีทรัพย์สินสร้างเงินแทน คุณก็ไม่ต้องทำงานจนตายแต่มีรายได้ไหลเข้ากระเป๋าตั้งแต่ต้นจนตายก็ยังคงไหลเข้ากระเป๋าเพราะรายได้มาจากทรัพย์สินสร้างเงิน ไม่ใช่จากตัวคุณ ฉะนั้นแล้วมีทรัพย์เยอะๆเถอะครับ
51.หาหนทางให้คนอื่นสำเร็จและเติบโตไปพร้อมกับคุณเพราะเขาจะเป็นแรงผลักดันให้คุณยังคงมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นต่อไป
52.ความฝันเป็นของเรา อย่าปล่อยให้ใครเขามาขโมยเอาไป ด้วยถ้อยคำที่ว่า “มึงทำไม่ได้หรอก” คนที่ชอบบอกกับคนอื่นว่าทำนู่นนั่นไม่ได้คือเขาบอกตัวเขาเองต่างหากว่าเขาเองนั่นแหละที่ทำไม่ได้เลยตัดสินว่าเราก็ต้องทำไม่ได้ด้วยเพราะตัวเขาเองก็ทำไม่ได้ อย่ายอมเด็ดขาย คนที่ไม่มีอนาคตไม่ใช่คนเกเร เรียนไม่เก่ง เรียนไม่จบ ไม่ได้เรียน
ฐานะไม่ดี หรือแม้พิการ แต่คนที่ไม่มีอนาคตจริงๆคือคนที่ไม่มีความฝันและเป้าหมายในชีวิตต่างหาก
53.มนุษย์เป็นไปตามความคิดและความเชื่อของเขา
54.ทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเราเพียงคนเดียว อย่าลืมขอบคุณคนเบื้องหลังที่เขามีส่วนเกื้อหนุนผลักดันเป็นแรงบันดาลใจหรืออย่างอื่นที่ช่วยทำให้เราประสบความสำเร็จได้
55.ความรู้สึกของผู้ให้ไม่ใช่ว่ามีมากมายเหลือล้นอะไร หากแต่เป็นเพราะเขาเข้าใจว่าการไม่มีนั้นเป็นยังไงต่างหาก
56.น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ต่อให้เก่งดั่งเทพเทวดาก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น เพราะเราไม่มีทาง เก่งไปหมดซะทุกอย่างแน่นอน จึงต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น
57.บุญคุณสำคัญ อย่าลืมบุญคุณเด็ดขาด เมื่อมีใครช่วยเหลืออะไรเราจงหาวิธีตอบแทนเขาให้ได้ไม่ด้วยวิธีการใดก็วิธีการหนึ่งไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังก็ตาม
58.เงินคือความคิด ทุนคือความอยาก เมื่อมีความอยากก็จะหาวิธีการ แต่ถ้าไม่อยากต่อให้มีทุนคุณก็ไม่ทำ ก็จะหาแต่ข้ออ้างถามตัวเองเยอะๆว่าอยากไหม?
59.ตั้งแต่เกิดมาเราเลียนแบบการพูดจากพ่อแม่ เรียนหนังสือตามรุ่นพี่ตามเพื่อนๆที่เรียนกัน เรียนร้องเพลงตามคนที่เราชอบ เราเรียนแบบกันมาทั้งนั้น ความสำเร็จมันเลียนแบบกันได้แต่เลียนแบบวิธีคิดจะดีกว่าส่วนเลียนแบบวิธีการนั้นทำได้ในบางเรื่อง เช่น Skill หรือ ทักษะ แปลว่าฝึกได้เลียนแบบทำซ้ำได้ ไม่ว่าจะทักษะการขาย ทักษะการพูดอย่างมีเสน่ห์ มันเป็นทักษะที่ควรมีติดตัวไว้ เพราะทุกสิ่งอย่างมันต้องขายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการขายความรู้ ขายเวลา หรือแม้แต่ขายตัวเอง(อย่าคิดลึกนะ) คนที่ขายตัวเองเป็นก็จะมีโอกาสได้งาน หรือมีโอกาสดีๆเข้ามาในชีวิตมากกว่าคนที่ขายตัวเองไม่เป็น และอีกทักษะนั่นก็คือการพูดเพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับตัวเองอย่างมีเสน่ห์ มีคนจำนวนมากที่มีทักษะ มีความรู้มาก แต่อธิบายไม่เป็น คนอื่นก็ไม่รู้ว่าคุณรู้หรือเก่งอะไร สุดท้ายก็ขายตัวเองไม่ได้ แล้วก็พลาดโอกาสในชีวิต ผิดกับคนที่ไม่ได้รู้มากไม่ได้เก่งมาก แต่เขาเรียนรู้ได้ อธิบายเป็น เขามีเปอร์เซ็นได้รับโอกาสในชีวิตมากกว่า
60.ความลำบากจะสอนให้เราเป็นคน ความยากจนจะสอนให้เรารู้ว่าใครคือศัตรูใครคือมิตร ละการแก้แค้นศัตรูที่ดีที่สุด คือการทำชีวิตเราเองให้มีความสุขที่สุด
61.คนบางคนรอโอกาส บางคนวิ่งไล่ล่าหาโอกาส แต่คนฉลาดมักจะสร้างโอกาสขึ้นมาเอง
62.โลกใบนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับคนอ่อนแอหกล้มท้อแท้ได้ แต่ต้องเข้มแข็งขึ้นทุกๆครั้งที่ล้มแล้วยืนขึ้นมาใหม่ เพราะโลกไม่สนใจหรอกว่าวันนี้เราจะนั่งท้อแท้สิ้นหวังเสียใจให้ห้องอับ เพราะในขณะที่เราท้อคนอื่นเขาก็ไม่ได้ท้อด้วยจริงไหม ถึงแม้เราไม่ทำคนอื่นเขาก็ทำอยู่ดี ระหว่างที่เราคิดมันก็มีคนที่ลงมือทำ ระหว่างที่เราทำแล้วมานั่งท้อ มันก็มีคนลุกขึ้นสู้และสำเร็จไปก่อนหน้านั้นแล้ว ถ้าแพ้ก็เป็นได้เพียงแค่ถ่าน ต้องผ่านถึงจะเป็นเพชร
63.คนไม่เก่งคือคนไม่ฝึก คนเก่งๆคือคนที่ฝึกฝนก็เรียนรู้พัฒนาตนเองจากการล้มเหลวของตัวเอง คนฉลาดจะฝึกฝนเรียนรู้พัฒนาตนเองจากประสบการของผู้อื่น คนฉลาดกว่าคือคนที่ฝึกฝนเรียนรู้พัฒนาตนเองจากคนสำเร็จ คนฉลาดที่สุดคือคนที่ทำตัวเองให้สำเร็จแล้วดึงดูดคนอื่นเข้ามาหาตัวเขาเอง
64.คนที่ไม่มีความผิดคือคนที่ไม่ทำอะไร ทำน้อยก็ผิดน้อยทำมากก็ผิดมากเป็นปกติ
65.เวลาเอาเงินไปซัดเหล้ายังไม่เห็นต้องคิดแต่พอเอาเงินมาสร้างชีวิตคิดเยอะทำไม เสียเงินให้เรื่องไร้สาระยังเสียได้ เสียเงินให้สิ่งที่มันสร้างชีวิตต้องเสียได้ การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนกับตัวเอง ลงทุนความรู้ ลงทุนประสบการณ์ เพราะถ้าไปลงทุนอย่างอื่นโดยที่คุณไม่มีความรู้ไม่มีประสบการณ์มากพอ มีโอกาสเจ๊งสูง แต่การลงทุนกับตัวเองไม่มีทางเจ๊ง
66.เมื่อเอาแว่นระดับสายตาของคุณไปให้คนอื่นใส่ แน่นอนว่าระดับสายตาสั้นยาวไม่เท่ากัน แล้วทำไมต้องบังคับให้คนอื่นมีมุมมองเช่นเดียวกันกับคุณ ทำใจได้เลยว่ามันมีคนคิดไม่เหมือนเราแน่นอนเพราะแต่ละคนมีความรู้คนละทางมีประสบการณ์คนละอย่าง ถูกเสี้ยมสอนมาไม่เหมือนกัน ย่อมมีทัศนคติต่างกันแน่นอน
67.ความคิดนอกกรอบไม่เกิดก็เพราะระบบการศึกษา เพราะการศึกษาสอนให้คิดตามๆกันทำตามๆกัน ถูกวางโปรแกรมไว้หมดแล้วว่าอะไรถูกผิดและห้ามให้นักเรียนทำผิด ใครทำผิดต้องโดนลงโทษก็เลยไม่มีใครกล้าทำอะไรนอกเหนือจากนั้น ก็ไม่เกิดการคิดนอกกรอบ ไม่เกิดการเรียนรู้ทั้งที่มนุษย์นั้นเรียนรู้จากข้อผิดพลาดแต่ระบบการศึกษาห้ามนักเรียนทำผิดพลาด
68.ระบบอาวุโสสอนให้คนเบื้องล่างอย่าขัดแย้ง อย่าสงสัย บอกอะไรต้องทำตามถ้ามีความคิดเห็นที่แตกต่างเมื่อไหร่ถือเป็นการทำผิดทันที ถ้าโต้แย้งด้วยเหตุผลหรืออะไรก็แล้วแต่อีโก้จะตอกหน้าหงายกลับมาว่า อย่าเถียง!! อาบน้ำร้อนมาก่อนแล้ว
69.เวลาที่คุณมีความรู้สึกว่าโลกภายนอกไม่ดีนู่นนี่ให้หันกลับมาแก้ที่โลกภายในของตัวเอง
-สมมติมีคนขี่รถปาดหน้าก็อย่าไปอารมณ์เสียเลย ให้คิดไปว่าเป็นเรื่องปกติตามประสาเด็กแว้นเราก็ไม่โกรธ ถึงต่อให้เราโกรธให้ตายยังไงเด็กแว้นคนนั้นเขาก็มีความสุข คนที่เป็นทุกข์ก็คือเรา
-สมมติมีขโมยขึ้นบ้านคุณ ต่อให้คุณไปด่าสาปแช่งมันก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร สิ่งที่ต้องแก้คือบอกขโมยว่าห้ามขโมยนะมันไม่ดี บาป ผิดศีล หรือจะทำบ้านคุณให้หนาแน่นมิดชิดล่ะ แน่นอนเราแก้ที่คนอื่นไม่ได้ ต้องแก้ที่ตัวเราเอง คนส่วนใหญ่มักชอบไปเปลี่ยนโลกภายนอก เราควรเปลี่ยนที่ตัวเราเอง
70.การศึกษาเรียนรู้จะทำให้เรารู้มากขึ้น แล้วถ้าเอาสิ่งที่รู้มาสอนคนอื่นได้ด้วยเราจะเก่งขึ้นและภูมิใจแทบน้ำตาไหลเวลามีคนมาขอบคุณ
71.ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนผมเป็นเด็กโนเนมไม่มีความสำเร็จอะไรต่อให้พูดสิ่งที่ฉลาดที่สุดในโลกก็ไม่มีใครเชื่อผม แต่พอประสบความสำเร็จแล้วต่อให้ตอนนี้ผมพูดเรื่องที่ดูโง่ที่สุดผู้คนก็มานั่งครุ่นคิดว่ามันมีความหมายโดยนัยอะไรแอบแฝงอยู่รึเปล่า
72.การโน้มน้าวเป็นวิธีการของคนมีศิลป์ ส่วนคนที่ไม่มีความเป็นศิลปินเขาจะบังคับ! ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีใครชอบโดนบังคับ
73.การรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมคนอื่นไม่ใช่เพราะเดาเก่งหรือนั่งเทียน แต่เป็นเพราะเราเองก็ทำมามาก่อนแล้ว ใช่รึเปล่า?
74.Profile เริศหรูดูดี โพสต์แต่เรื่องดีๆแชร์แต่สิ่งดีๆ อาจทำให้คุณมีเพื่อน “น้อยลง” แต่เชื่อเถอะว่าเพื่อนคุณที่เหลือจะมี “คุณภาพ” ขึ้นเยอะ ดึงดูดแต่คนคุณภาพเข้ามาหาคุณ อยากมีเพื่อนแบบไหนก็โพสต์ก็แชร์แต่เรื่องแบบนั้นแหละ
75.แก้วน้ำมีไว้ตักน้ำ อาหารมีไว้เลี้ยงร่างกาย ความคิดมีไว้ยกระดับจิตใจ คิดลบ=ใจต่ำ คิดบวก=ใจสูง อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ กล่าวว่า ถ้าวันนี้ใจมึงสูงมึงก็รอดแต่ถ้าใจมึงกระจอกมึงก็จน ฟังแล้วซี๊ด!! ฉะนั้นยกระดับจิตใจบ้าง
76.ธรรมชาติพยายามสอนเราเสมอ มีแต่เราที่ไม่เคยเรียนรู้จาก “โลกของความเป็นจริงสะทีนึง” หลอกตัวเองว่าชีวิต “พอเพียง” แต่ไม่เคย “เพียงพอ” มีแต่ขาดเขิน ต้องมีจนคิดว่าตัวเอง “เพียงพอ” ก่อนจะบอกชีวิต ”พอเพียง” อย่าหลอกตัวเองว่าไม่อยากประสบความสำเร็จ หาข้ออ้างว่าที่ฉันเป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว ผมเถียงว่าถ้าดีอยู่แล้วไปทำงานทำไม เราทำงานก็เพื่อต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไม่ใช่หรอ บ้างก็บอกตายไปก็เอาอะไรไม่ได้ ใช่ครับ! เอาไปไม่ได้แต่เกิดมาแล้วไม่ได้ตายเลย ระหว่างที่มีชีวิตอยู่ล่ะ? อยากอยู่แบบเป็นคนสำเร็จภาคภูมิใจหรือมีชีวิตไม่เอาไหนแบบคนล้มเหลว ตายไปแล้วอยากให้คนรุ่นหลังพูดถึงคุณว่าอะไร พ่อๆทิ้งหนี้ไว้ให้ผม10ล้าน แม่ๆทิ้งหนี้ไว้ให้หนู 20ล้าน หรือพูดว่าที่พวกเรามีคชีวิตสุขสบายเพราะพ่อแม่ปูทางไว้ให้ ทิ้งมรดกก้อนโต คุณอยากได้แบบไหนล่ะ? ต้องเลือกทิ้งกองมรดกไว้ถูกไหมครับ แล้วถ้าสมมติคุณเป็นหญิงสาว สเป็กชายในฝันของคุณเป็นแบบไหนระหว่าง หล่อแต่ไม่รวย กับหล่อด้วยรวยด้วย แน่นอนคุณต้องเลือกอย่างหลัง สรุปคือต้องการสิ่งที่ดีกว่าถูกไหม เคยมีคนเล่าว่าถ้าเดินไปบอกเจ้าของ 7-11 ว่าผมอยากได้ลูกสาวคุณมาแต่งงานกับลูกชายผม เจ้าของ 7-11 ตอบไม่! แต่ลูกชายผมเป็น CEO บริษัท Google นะ เจ้าของ 7-11 ตอบได้เลย ตกลงไม่มีปัญหายินดีให้ลูกสาวแต่งงานด้วย แล้วเมื่อเดินไปบอกเจ้าของบริษัท Google ว่าให้ลูกชายผมเป็น CEO บริษัทคุณ เจ้าของ บริษัท Google ตอบ ไม่! แต่ลูกชายผมเป็นลูกเขยเจ้าของ 7-11 นะ เจ้าของบริษัท Google ตอบ ได้เลย ไม่มีปัญหายินดีเป็นอย่างยิ่งว่าที่ CEC คนใหม่ ผมจะแต่งตั้งลูกชายคุณเป็น CEO ของบริษัท ในโลกของความเป็นจริงคนเขาไม่ได้มองกันที่ข้างในเป็นอันดับแรกหรอก เขาก็มองกันที่ภายนอกกันทั้งนั้น พอภายนอกโอเคค่อยศึกษาภายใน อย่างถ้าวันนี้เจอชายในฝัน คุณก็ต้องชอบที่รูปลักภายนอกเขาก่อน หุ่นดี ผิวขาว บลาๆ ถึงจะไปดูใจเค้าต่อ อย่ามาบอกเลยว่าชอบคนที่ใจไม่ได้ดูคนแค่ภายนอก เอาจริงๆนะ คุณน่ะชอบคนที่ภายนอกถ้าคุณไม่ชอบภายนอกเค้าก่อนแล้วจะไปดูใจเค้าได้ยังไง ภายนอกมันต้องโดน แล้วถึงอยากไปทำความรู้จัก ค่อยไปดูใจต่อ แต่ถ้าภายนอกไม่โดนคุณก็ตัดทิ้งตั้งแต่แรกแล้ว นี่คือโลกของความจริง ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือนั้นสำคัญแล้วยิ่งถ้ามีผลลัพธ์ในชีวิตยิ่งดีไปใหญ่
77.ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากคำพูดที่ดูดีแต่เกิดจากการลงมือทำเต็มที่อย่างสม่ำเสมอ
78.สินค้ามันจะมีป้ายราคาติดอยู่ ผมว่าคนเราก็เหมือนกันนะ ก็ฉันมันแย่ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ฉันมันก็แค่พนักงานกากๆ ป้ายแบบนี้แกะออกครับ ติดป้ายใหม่ คุณมันเจ๋ง คุณไม่ได้ล้มเหลวแค่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย คุณคือพนักงานยอดเยี่ยม จะทำให้คุณมีคุณค่า มีราคา ไมมากขึ้นเลยล่ะ คุณมีคุณค่ากว่าที่คิดนะ แล้วการทำให้ชีวิตตัวเองมีคุณค่า มันก็คือการทำให้ชีวิตคนอื่นมีคุณค่า แปลกนะครับแต่จริง เมื่อคุณสร้างคุณค่าให้คนอื่นคุณจะมีความรู้สึกว่าไอ้ตัวเรานี่มันก็มีดีเหมือนกันนี่หว่า มีประโยชน์ต่อผู้อื่นนี่หว่า แล้วคุณจะภูมิใจอิ่มเอมตื้นตันจนรู้สึกว่าโลกนี้ช่างน่าอยู่เสียจริง ผมเคยช่วยพี่คนนึง เปรียบเหมือนผมเป็นเศษเสี้ยวหนึ่งของความสำเร็จของนักร้องดัง(ไม่เอ่ยนาม) ตั้งแต่ยังไม่ดังมากจนมีแฟนคลับคับคั่ง ได้เข้าค่ายเพลงเป็นที่เรียบร้อย แล้วทุกๆครั้งที่มีคนเปิดเพลงพี่เขาฟัง ผมนี่ยังรู้สึกเลยว่าภูมิใจ ตัวเองมีคุณค่า มีความสุขแบบบอกไม่ถูก
79. เงิน 100 บาท มันจะมีค่าไม่คู่ควรกับ 100 บาท ด้วยซ้ำ หากใช้ไม่เกิดประโยชน์ แต่เงิน 100 บาท มันจะคุ้มค่าหรือเทียบเท่า 10,000 บาท หากใช้อย่างฉลาด เพราะมูลค่ากับราคาคนละอย่างกัน
80.คนทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง คนที่ดูถูกคนอื่นคือคนที่ดูถูกตัวเอง ปลานั้นเก่งว่ายน้ำ ลิงเก่งปีนต้นไม้ กระต่ายเก่งวิ่งเร็ว แต่ละคนก็มีดีกันคนละแบบ ดูข้อดีแล้วภาคภูมิใจดีกว่ามองข้อแล้วทับถมกัน
81.มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จคุณต้องอยู่ในสังคมของคนสำเร็จ หรือไม่ก็สร้างสังคมขึ้นมา แน่นอนว่าเมื่อเข้าไปอยู่ในสังคมของคนสำเร็จใหม่ๆอาจทำให้คุณรู้สึกตัวเล็กแต่นั่นแหละมันจะทำให้คุณพัฒนาตัวเองให้ได้อย่างพวกเขาเหล่านั้นเพราะไม่มีใครอยากเป็นตัวประหลาด
82.เราจะเป็นคนยังไงก็ขึ้นอยู่กับเพื่อนที่คบ สังคมที่อยู่ สื่อที่เสพ หรือหนังสือที่อ่าน เพราะสิ่งเหล่านั้นจะหล่อหลอมความเป็นตัวเรา อย่างซีรี่เกาหลีก็สะท้อนสภาพสังคมคนเกาหลี หนังจีนก็สะท้อนสภาพสังคมคนจีน ละครไทยน้ำเน่าก็สะท้อนสะภาพของสังคมไทยนั่นแหละ ผิดลูกผิดเมีย ตบตีแย่งสามีกัน ผิดหวังทีก็กินเหล้าเข้าผับ หรือวางยาหวังฮุ๊บมรดก ก็เข้าใจแหละว่าถ้าเล่นสร้างสรรค์กว่านี้เรตติ้งคงตกคนดูน้อย ถ้าอยากเป็นคนสำเร็จต้องเลือกคบเพื่อน เลือกเสพสื่อ เพราะแวดล้อมไปด้วยสิ่งไหนคุณจะกลายเป็นสิ่งนั้น
83. ผู้นำคือ “ผู้สร้างกฎ” ส่วนผู้ตามเล่นตามกฎ ถ้าคุณเล่นตามเกมส์ที่คนอื่นวางไว้แล้วไม่มีทางชนะได้เลยก็ลองหันมาสร้างเกมส์ของตัวเองดูไหมครับ ถ้าคุณทำงานประจำอย่างเดียวแล้วไม่มีทางร่ำรวยลองทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยดีไหม
84.ความยากของนักปฏิบัติ คือการหยุดมานั่งครุ่นคิด ส่วนความยากของนักคิดคือหยุดเอาแต่คิดแล้วไปลงมือทำ คนที่ลงมือทำสวนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลามานั่งครุ่นคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันมันทำให้เราไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือเปล่า ส่วนคนที่เอาแต่คิดก็ไม่มีเวลาไปลงมือทำแล้วแบบนี้ผลลัพธ์จะเกิดได้ยังไง คนทำไม่ค่อยชอบคิด ส่วนคนคิดไม่ค่อยชอบลงมือทำ ต้องเป็นทั้งนักคิดและนักลงมือทำถึงจะสำเร็จ
85.คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก ฝันใหญ่ไม่ฝันเล็ก เพราะเหนื่อยเท่ากัน ใหญ่ๆทำได้แค่ครึ่งมันก็ยังใหญ่อยู่ แต่เล็กๆทำได้ถึงเป้าก็ยังเล็กอยู่ ดังคำกล่าวที่ว่า ตั้งเป้าไปให้ถึงดวงจันทร์ ต่อให้ไม่ถึงฝั่งฝัน มันก็อยู่ท่ามกลางดวงดาว
86.คนที่มีเป้าหมายใหญ่อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่คนที่ไม่มีเป้าหมายนั้นเหนื่อยกว่าและเหนื่อยตลอดชีวิต
87.ถ้าเป้าหมายในชีวิตถูกปฏิเสธไม่มากพอแสดงว่าเป้าหมายคุณยังไม่ใหญ่พอ ถ้ามีเป้าหมายแล้วมีคนต่อต้านนั่นเรื่องปกติไม่มีใครต่อต้านเลยนั่นต่างหากที่โคตรแปลก
88.จงเก็บเป้าหมายของคุณเป็นความลับเพราะช่วงแรกที่ตั้งเป้าหมายเราต้องการความเชื่อเราต้องการกำลังใจ ไม่ใช่ประกาศให้คนอื่นมาทำลายเมื่อประกาศออกไปมันจะมีคนคิดลบผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดมีผู้หวังดีมาบอกคุณว่าเฮ้ยมันยาก อย่าเสี่ยงเลยไม่คุ้ม ไอ้บ้า สงสัยคงเสียสติ มันไม่มีทางเป็นไปได้ อย่ามักใหญ่ใฝ่สูง หัดเจียมตัวเสียบ้าง วางป๋องกาวลงแล้วไปนอนซะ สารพัดที่พวกคนเหล่านี้จะกระหน่ำเข้าใส่คุณ แล้วคุณก็ไขว้เขว ตกลงที่เขาพูดมันจริงหรือเปล่าวะ ท้อแท้สิ้นหวังหมดกำลังใจแล้วสุดท้ายก็ล้มเหลวทำไม่ได้เหมือนที่เขาเหล่านั้นได้พูดเอาไว้และก็เชื่อเหมือนอย่างพวกคิดลบเหล่านั้นเห็นไหมว่าอะไรจะตามมาหลังจากคุณประกาศออกไป เก็บไว้พูดกับคนที่เขาจะช่วยให้เป้าหมายสำเร็จได้เท่านั้น อ้าวแล้วคนที่ประกาศเป้าหมายออกไปแล้วทำสำเร็จล่ะ ครับคนที่ประกาศออกไปแล้วทำสำเร็จก็มีอย่างตัวผมทำสำเร็จเป้าหมายข้อแรกที่ทำสำเร็จไม่ใช่เพราะไม่เคยโจมตีผมก็โดนแต่เพราะจิตแข็งแล้วไงใครจะมาพูดอะไรก็ช่างแมร่ง!! อย่ายอมให้น้ำลายราคาถูกมาทำลายฝันราคาแพง คำพูดไร้ค่าพวกนั้นไม่มีผลอะไรกับความสำเร็จเลยแถมยังเป็นการผลักดันให้เราต้องทำให้ได้ ถ้าจิตคุณยังไม่แข็งพอยังไม่เชื่อมั่นในตัวเองมากพอ แนะนำว่าอย่าเอาเป้าหมายไปบอกคนอื่นมั่วซั่วดีที่สุด ไม่แน่ว่าอาจมีคนมีเป้าหมายเดียวกับคุณอย่างตั้งเป้าอยากเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นแล้วบังเอิญคนที่ดันได้ยินเป้าหมายคุณก็มีเป้าเดียวกัน ถ้าสู้กับคนใจสูงเมื่อเขาแพ้เขาจะไปพัฒนาตนเองให้เก่ง แต่ถ้าสู้กับคนใจต่ำถ้าเขาต้องเป็นฝ่ายแพ้เขาจะเล่นสกปรก จงระวังไว้ดีที่สุด ผมจะบอกว่าถ้าเชื่ออะไรก็ทำไปแล้วถึงจะได้เห็น บางคนต้องเห็นแล้วถึงจะเชื่อแต่สำหรับผมถ้าผมเชื่อแล้วผมจะได้เห็น
89.คนที่ชอบบ่นด่าว่าคนอื่นคือคนที่ไม่ชอบตัวเอง พอไม่ชอบตัวเองก็เลยไม่ชอบคนอื่น ฉะนั้นเวลามีคนมากล่าวหาบ่นด่าว่าอะไรให้คุณ ก็จงสบายใจได้เลยว่าเขกำลังว่าตัวเขาเอง
90.คุณคิดแบบไหน พูดแบบไหน โพสต์เฟสบุ๊คแบบไหน คุณจะได้แต่เพื่อนแบบนั้นแหละครับ ด่าออกไปโอ้วสะใจก็ได้แต่เพื่อนปากจัด บ่นออกไปเฮ้ยโล่งก็จะได้แต่เพื่อนขี้บ่นคิดลบ ถ้าโพสต์เรื่องดีๆแน่นอนแหละว่าแรกๆเพื่อนเราอาจลดน้อยลงแต่เพื่อนเราแต่ละคนจะมีคุณภาพขึ้นเยอะเลย
91.กูรูนอน 4 เศรษฐีนอน 6 ยาจกนอน 8 ฉะนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จอยากร่ำรวย ท่องไว้เลย อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย และอย่าคอยวาสนา
92.ทำอะไรก็ต้องทำให้ถึงที่สุดไม่สำเร็จไม่หยุด แต่ต้องเปลี่ยนวิธีการด้วยนะหากวิธีไหนไม่เวิร์คก็เปลี่ยนวิธีจนสำเร็จ เพราะทำแบบเดิมผลลัพธ์มันก็ต้องได้แบบเดิม ไม่มีทางที่จะทำแบบเดิมแล้วได้ผลลัพธ์แบบไหมด้วยหลักเหตุและผล “ฉันใดก็ฉันนั้น” ทำยังไงก็ได้อย่างนั้น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวว่า คนที่ทำแต่สิ่งเดิมๆแล้วคาดหวังผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงคือบุคคลวิกลจริต
93.อย่าทำตัวเองให้เหมือนกระดาษทราย ที่คอยแต่ขัดเกลาผู้อื่นจนลืมไปว่าตัวเองก็หยาบเหมือนกัน ทุกครั้งก่อนสอนคนอื่นควรย้อนถามตัวเองว่าเราทำได้แล้วหรือยัง?
94.อย่าล้มเหลวจนชินแต่จงคุ้นชินกับความสำเร็จ ถ้ามีหม้อน้ำ 2 หม้อ หม้อนึงต้มน้ำร้อน ส่วนหม้อนึงเป็นน้ำเย็น แล้วหย่อนเขียดลงหม้อน้ำร้อนเขียดมันคงรีบกระโดดออกทันทีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับกันถ้าหย่อนเขียดลงหม้อน้ำธรรมดามันคงลอยน้ำเล่นเย็นสบาย ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรว่ายไปว่ายมาเหนื่อยไม่มีแรงพอตั้งไฟต้มน้ำก็ไม่สามารถกระโดดออกจากหม้อได้แล้วเพราะหมดแรง ชีวิตคนเราก็เหมือนกันอยู่กับความล้มเหลวจนเคยชินใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆไม่รีบสร้างเนื้อสร้างตัวพออายุเยอะๆจะไปสร้างตัวเอาตอนแก่มันก็แย่สะแล้วไม่ทันการแล้วไม่มีแรงจะสร้างชีวิตสะแล้วล่ะ ก็เลือกเอาว่าจะสร้างชีวิตก่อนแล้วค่อยใช้ เหนื่อยแปปเดียวแล้วสบายทั้งชีวิต หรือจะใช้ชีวิตก่อนแล้วค่อยสร้าง สบายแปปเดียวลำบากทั้งชีวิต
95.ถ้าชีวิตนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะเอายังไงให้นึกไปถึงวันที่เรากำลังจะตายว่าอยากให้คนรุ่นหลังกล่าวถึงเราว่ายังไง
96.อย่าเสียเวลาไปเปลี่ยนแปลงคนอื่นแต่จงเอาเวลามาปรับที่ทัศนคติของเราที่มีต่อคนอื่นๆ และสิ่งรอบข้าง
97.ถ้าสินค้าของคุณไม่ได้มีความจำเป็นกับชีวิตของกลุ่มลูกค้าสักเท่าไหร่ ฉนั้นแล้วนักขายที่ดีคือนักขายอารมณ์คือการทำให้ลูกค้ารู้สึกมีอารมณ์ร่วมอยากซื้อ ไม่ใช่เพียงการโฆษณาว่าของเราดีอย่างงั้นอย่างงี๊ เพราะคนส่วนใหญ่ตัดสินใจด้วยอารมณ์แล้วค่อยหาเหตุผลมาสนับสนุนการตัดสินใจ เรียกได้ว่าอารมณ์นำแล้วเหตุผลค่อยตามมา
98.ตั้งคำถามกับตัวเองกับสิ่งที่ทำว่าตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ แล้วถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะมีชีวิตอยู่เรายังต้องการทำสิ่งนี้อยู่หรือไม่ ถ้าคำตอบ ใช่ ทำต่อ แต่ถ้าไม่ รีบหาแก่นสารของชีวิตได้แล้ว
99.จงทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วอยู่เสมอ อย่าเป็นน้ำเต็มแก้วที่ใส่ไปเท่าไหร่ก็ล้นออกมา หรือเป็นแก้วที่คว่ำอยู่กลางสายฝนต่อให้ฝนจะตกหนักขนาดไหนน้ำในแก้วก็ไม่มีวันเต็ม สรุป แก้วว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยก็ไม่ได้ มีน้ำล้นแก้วรับน้ำไม่ไหวก็ไม่ดี ควรจะมีน้ำบ้างและมีพื้นที่เหลือพอที่จะจุความรู้ใหม่ๆบ้าง
100.ไม่มีความสำเร็จนอกบ้านที่ไหนจะมาทดแทนความล้มเหลวภายในบ้านได้
.
เนื้อหาบางส่วนจากผู้สำเร็จจริง
เรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ วรบุตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น