Welcome to Blog ห้องสมุดความรู้ หากท่านถูกใจ ฝากกดแชร์( Like) (G+) (Tweet) ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้จัด ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง เฮงๆรวยๆ #4289

ปีฉลู ชาววัว


ฉลู ปีฉลู

อุปนิสัยชาวฉลู

          ชาวจักรราศีนี้มีความเข้มแข็งและพลังอย่างเหลือล้น ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือหญิง อุปนิสัยของชาวจักรราศีนี้ เป็นผู้ที่ชอบ
ทำให้เสร็จสิ้นไปเลยมากกว่าเพียงการติดฝัน เช่นเดียวกับเป็นผู้ลงมือก่อสร้างเองมากกว่าการคิดเพียงพัฒนาให้กับโลก มีความสามารถ
ที่จะลงมือกระทำให้เสร้จสิ้นตามแผนการที่วางไว้จนจบไม่ใช่คนที่หูเบาเชื่ออะไรง่ายๆ 

ปีชวด ชาวหนู


ชวด ปีชวด

อุปนิสัยชาวหน
ู 

          ไม่ว่าจะเป็นแร๊ดหรือเป็นเม้าส อุปนิสัยย่อมเหมือนกันไม่เปลี่ยน ดูอาจเป็นผู้นำที่น่าแปลกสำหรับสิบสองตัวของสัตว์ของจักรราศี
การเลือกเอาหนูเป็นจักรราศีนำเป็นการเลือกที่ฉลาดสุขุมยิ่งนัก เพราะอุปนิสัยของชาวหนูนั้น มีทั้งความหนักแน่นละเอียดอ่อน
ความใฝ่ฝันทะเยอทะยาน ยังมีความวิตกกังวลที่อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นคนหยิ่งยโส ผู้เกิดจักรราศีนี้มักมีพรสวรรค์และความสามารถพิเศษ
ซึ่งเจ้าตัวอาจไม่ยอมรับ กว่าจะค้นพบว่าเป็นความจริงก็เกือบสายเกินไปทุกครั้ง ผู้ซึ่งเกิดจักราศีนี้ที่โชคดีนั้น จะนำตัวเองขึ้นสู่ทางที่ถูกต้อง
ตั้งแต่อายุเยาว์

พระประจำวันเกิด วันเสาร์



ปางนาคปรก

7. ผู้ที่เกิดวันเสาร์

พระประจำวันเสาร์ ได้แก่ ปางนาคปรก   

          ลักษณะพระพุทธรูป : พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ หงายพระหัตถ์ทั้งสองวางซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนทับพระหัตถ์ซ้ายเหมือนปางสมาธิ แต่มีพญานาคขนดร่างเป็นวงกลมเป็นพุทธบัลลังก์และแผ่พังพานปกคลุมอยู่เหนือพระเศียร

ความเป็นมา

          เมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้ และประทับบำเพ็ญสมาบัติเสวยวิมุตติสุขอันเกิดจากความพ้นกิเลสอยู่ ณ อาณาบริเวณที่ไม่ไกลจากต้นพระศรีมหาโพธิ์แห่งละ 7 วันนั้น ในสัปดาห์ที่ 3 นี้เอง ก็ได้ไปประทับใต้ต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) ขณะนั้นฝนได้ตกลงมาไม่หยุด พญานาคตนหนึ่งชื่อ "มุจลินท์นาคราช" ก็ได้ขึ้นมาแสดงอิทธิฤทธิ์เข้าไปวงขนด 7 รอบ แล้วแผ่พังพานปกพระพุทธเจ้าไว้มิให้ฝนตกต้องพระวรกาย เหมือนกั้นเศวตฉัตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย ทั้งป้องกันเหลือบ ยุง บุ้ง ร่าน ริ้น และสัตว์เลื้อยคลานทั้งมวลด้วย จนฝนหาย จึงได้แปลงร่างเป็นมาณพเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์

พระประจำวันเกิด วันศุกร์




6. ผู้ที่เกิดวันศุกร์

พระประจำวันศุกร์ ได้แก่ ปางรำพึง      

          ลักษณะพระพุทธรูป: พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานกันยกขึ้นประทับที่พระอุระ (อก) พระหัตถืขวาทับพระหัตถ์ซ้าย

ความเป็นมา
          ภายหลังจากที่ตรัสรู้ได้ไม่นาน พระพุทธเจ้าซึ่งประทับอยู่ภายใต้ต้นไทร (อชปาลนโครธ) ก็ได้ทรงรำพึงพิจารณาถึงธรรมที่ตรัสรู้ว่าเป็นธรรมที่มีความละเอียดลึกซึ้ง ยากที่มนุษย์ปุถุชนจะรู้ตามได้ จึงเกิดความท้อพระทัยที่จะไม่สั่งสอนชาวโลก ด้วยรำพึงว่าจะมีใครสักกี่คนที่ฟังธรรมะของพระองค์เข้าใจ ร้อนถึงท้าวสหัมบดีพรหมได้มากราบทูลอาราธนาเพื่อทรงแสดงธรรมว่าในโลกนี้บุคคลที่มีกิเลสเบาบางพอฟังธรรมได้ยังมีอยู่ พระพุทธองค์ได้ทรงพิจารณาแล้วก็เห็นชอบด้วย อีกทั้งทรงรำพึงถึงธรรมเนียมของพระพุทธเจ้าทั้งหลายแต่ปางก่อน ว่าตรัสรู้แล้วก็ย่อมแสดงธรรมโปรดสัตว์โลกเพื่อประโยชน์สุขแก่ชนทั้งปวง จึงได้น้อมพระทัยในอันที่จะแสดงธรรมต่อชาวโลกตามคำอาราธนานั้น และตั้งพุทธปณิธานจะใคร่ดำรงพระชนม์อยู่จนกว่าจะได้ประกาศพระพุทธศาสนา ให้แพร่หลายประดิษฐานให้มั่นคงสำเร็จประโยชน์แก่ชนนิกรทุกหมู่เหล่าต่อไป พระพุทธจริยาที่ทรงรำพึงถึงธรรมที่จะแสดงโปรดชนนิกรผู้เป็นเวไนยบุคคลนั้นแล เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า ปางรำพึง

พระประจำวันเกิด วันพฤหัสบดี


ปางสมาธิ หรือ ปางตรัสรู้

5. ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

พระประจำวันพฤหัสบดี ได้แก่ ปางสมาธิ หรือ ปางตรัสรู้  
   

           ลักษณะพระพุทธรูป: พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ทั้งสองวางหงายซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระชงฆ์ (แข้ง) ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย

ความเป็นมา

          ปางตรัสรู้ คือ ปางที่เจ้าชายสิทธัตถะหรือพระโพธิสัตว์ทรงประทับขัดสมาธิบนบัลลังก์หญ้าคาใต้ต้นมหาโพธิ์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา และได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 45 ปี ซึ่งก็ตรงกับวันวิสาขบูชานั่นเอง