การเขียน สื่อออนไลน์ เขียนอย่างไร

สื่อออนไลน์…เขียนอย่างไร?
ในการเขียนเพื่อสื่อออนไลน์นั้น นอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องของการเขียนให้ “อ่านได้ง่าย” ตามที่กล่าวไปแล้วใน blog ก่อนหน้านี้

ผู้ผลิต / ผู้เขียน ควรมีวิธีที่จะทำให้ สื่อของเรานั้น “หาง่าย” ด้วย

“หาง่าย” ….. ตอบสนอง “Grab & Go”

ความหมายของลักษณะการเขียนให้ “หาง่าย” ในแบบแรกคือ ถ้ามีใครเข้ามาอ่านบทความของเรา เขาควรรู้ได้ทันที อย่างรวดเร็วว่า เนื้อหานั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง มีเนื้อหาอยู่ตรงไหนบ้าง มีข้อมูล หรือ สื่อประกอบอะไรที่เขาจะเลือกดูได้ อยู่ตรงไหน อย่างไร และ มีข้อมูล หรือ link เพิ่มเติมเชื่อมโยงข้อมูลภายนอกอย่างไร

การเขียนที่ดีต้องทำให้มีลักษณะให้ผู้อ่าน Grab & Go คือเข้ามาคว้าสิ่งที่เขาต้องการได้ และ ไปต่อได้โดยง่าย

สิ่งที่จะช่วยทำให้เกิดลักษณะแบบนี้ได้ ก็คือหลักการเขียน ในการเขียนตามหัวข้อที่ให้อ่านง่ายนั้นก็มีส่วนช่วยมาก เพราะจะทำให้กวาดสายตาแล้วเจอว่าเขาจะอ่านอะไร และ สิ่งที่ต้องการทราบอยู่ตรงไหน

นอกจากนี้ การทำเมนู เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ภายในเว็บไซด์อย่างเป็นระบบก็มีความจำเป็นยิ่ง หากเป็นเว็บไซด์ ก็ควรมี navigation bar หรือแถบเครื่องมือหัวข้อต่างๆ ที่ง่ายต่อการใช้ เช่น อยู่ในตำแหน่งด้านบน หรือ ขวามือของหน้าเว็บไซด์ จัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน

ในการทำ link ระหว่างข้อมูล เนื้อหาภายในเว็บไซด์ตัวเองต้อง link อย่างถูกต้อง และเหมาะสม หากมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้อง และ จะเป็นประโยชน์ต่อเนื่องกับผู้อ่านที่เข้ามาในหน้านั้น ควรทำการ link ไว้ให้ชัดเจน

ลักษณะการเขียน ที่มีการเน้นคำสำคัญ มีการใช้หัวข้อย่อยแบ่งประเด็น การเขียนความสำคัญไว้ต้นๆ ของแต่ละย่อหน้า เหล่านี้ ล้วนช่วยให้ผู้อ่านสื่อออนไลน์อ่านได้ง่ายขึ้นด้วย



“หาง่าย”….. คนหาเรื่องเราเจอ

ถ้าเราเขียนบทความได้ดี แต่ไม่มีคนเข้ามาอ่าน ก็เสียคุณค่าของเนื้อหาไป ดังนั้น อีกสิ่งที่ต้องคำนึงคือ เขียนอย่างไรให้คนหาเจอ และ อยาก click เข้ามาอ่าน

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือ การเขียน headline หรือ หัวข้อเรื่องให้น่าสนใจ

headline หรือ หัวข้อเรื่องที่ดี ควรมีใจความสำคัญอยู่ในนั้น มีการใช้คำสำคัญ (keyword) ในนั้นด้วย เพราะ search engine จะได้มองเห็นเรา…

headline ที่ดีต้องไม่ยาวจนเกินไป ต้องสามารถใช้คำสะดุดตา ดึงดูดความสนใจได้

แต่ก็ไม่ควรใช้คำที่รุนแรงเกินไป คำไม่สุภาพ หรือ พาดหัวเกินจริง หรือ พาดหัวในสิ่งที่ไม่ตรงกับเนื้อหา เพราะไม่เช่นนั้น ถ้าเขา click เข้ามาอ่านแล้วไม่เจอเรื่องตามที่พาดหัวไว้ คุณค่า และ ความน่าเชื่อถือของบทความและผู้เขียนจะน้อยลงไป

ทำอย่างไรให้ search engine หาเจอ

การมี keyword สำคัญๆ ภายในเรื่องเป็นสิ่งสำคัญ อะไรคือ keyword ก็คำหลักที่ตรงกับเรื่องของเรา และ คำที่คนที่จะอ่านเรื่องนั้น จะ search แล้วมาเจอเรา…มีตำราบางเล่มระบุไว้ว่า 30% ของเนื้อหาที่เขียน ควรมี keyword อยู่ภายในนั้น ก็ลองดูเอาว่า ใน 100 คำที่เขียน 30 คำควรเป็น keyword ของเรื่อง (นั้นก็เป็นเพียงการนับคร่าวๆ)

keyword จะไว้ตรงไหนได้บ้าง

ที่แรกที่ควรมี keyword ก็คือในหัวข้อเรื่อง จุดนั้นสำคัญมาก เพราะสิ่งแรกที่ bot ของ search engine จะมาเจอก็คือหัวเรื่อง…และ คนเวลา search เรื่องต่างๆ ใน search engine จะเลือก click เข้าไปที่ไหน ก็เลือกดูจากหัวเรื่อง..ดังนั้น หัวเรื่องคือด้านแรก ที่จะดึงคนอ่านเข้ามาอ่านบทความของเรา

จุดต่อมาคือ ในหัวข้อย่อย (sub-heading) ภายในเรื่อง อาจเป็นคำหลักของเรื่อง หรือ keyword ประกอบอื่นๆ ที่เราเชื่อว่าจะมีคน search เขาประมาณนั้นเพื่อมาอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือ เป็นคำสำคัญของประเด็นย่อยๆ ภายในเรื่อง

จุดต่อมาก็คือ โดยทั่วไปของเนื้อหา มีการใช่ keyword อย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ไม่เยอะเกินไป จนเหมือนว่ากำลังโกง keyword หรือที่เรียกว่า Spam Keyword

ที่คนอาจมองข้ามคือ การใส่ alt tag เป็น Keyword ในรูปภาพ เราควรทำด้วย เพราะเวลาคน search เป็นรูปก็จะยังมาเจอเราได้

แม้แต่ชื่อ file ของรูป และ ชื่อ url ของบทความก็ควรมี keyword ในนั้นด้วย

สามารถเช็คได้ว่า เราใช้ keyword ได้เหมาะสม เพียงพอหรือยัง หรือ ตรวจสอบ keyword ที่ควรใช้ได้จากพวก keyword suggestion tool บนอินเตอร์เน็ตมีให้บริการอยู่หลายเว็บ เช่น

http://www.slowseo.com/tools/keyword-selector-tool.php

http://business.truehits.net/keyfile/key_5.php

http://tools.seobook.com/general/keyword-information/

http://www.google.com/sktool/#

(อ่านเพิ่มเติมในเรื่องการทำ SEO – Seach Engine Optimisation ได้)

Link ก็สำคัญ ถ้าอยากให้ rank เราสูงใน search engine

การ link ไปที่อื่น และ มีผู้อื่น link กลับมาหาเราจะทำให้ search engine ให้ความสนใจบทความ หรือ หน้าเว็บไซต์นั้นของเรามากขึ้น เราสามารถเอา link ไปฝากไว้ใน search engine, ฝากไว้ใน social bookmarking

อ่านเพิ่มเติมได้จาก

http://www.oknation.net/blog/surasakc/2009/06/06/entry-1

http://www.thaicoms.net/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-SEO/Link-Popularity-%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3-SEO.html



แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การเขียนเพื่อการสื่อสารมวลชน..คุณค่าของมันก็คือเนื้อหา…หากเขาหาเราเจอ เข้ามาอ่านเรา แต่เราไม่ได้ให้อะไรคนอ่านเลย ก็ไม่ได้ช่วยทำให้มีคนอยากติดตามอ่านเรื่องของเรา ใน blog หน้าเรามาดูแนวคิด “การเขียนให้น่าเชื่อถือ” และ “การเขียนให้มีคุณค่า”