ลองมองไปที่โต๊ะทำงานข้างหน้าของคุณดูสิครับ...เป็นยังไงครับ รกเหมือนผมรึเปล่า(หัวเราะ) รู้มั้ยครับโต๊ะทำงานของเราที่เราต้อง อยู่กับมันวันละเกือบ 10 ชั่วโมง หรือบางคนก็ถือว่าใช้มันเป็นที่นอน(เหมือนผม)อยู่บ่อยที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ มีผลต่อโชคลาภหรือ บางอย่างที่ส่งพลังเกื้อหนุนเราด้วยนะครับ อาจจะดูงมงายไปนิดนึง แต่ผมเชื่อว่า ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมมันส่งผลต่อเราแน่ๆ และสิ่งที่ เห็นง่ายๆได้ด้วยตา ก็คือ โต๊ะที่มีความเป็นระเบียบ มีการตกแต่งที่สวยงาม มีการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆที่เป็นสัดส่วน มันจะทำให้เราทำ งานได้ดีขึ้นแน่นอน และที่แน่นอนยิ่งกว่านั้นก็คือ ถ้าหากโต๊ะทำงานของคุณที่แสนน่าเบื่อมีรูปแบบเดิมๆเหมือนๆกันทุกๆโต๊ะ ถูกจัด ถูกตกแต่งเสียใหม่ ผมว่ามันก็คงทำให้คุณอยากนั่งกับมันนานๆโดยไม่เบื่อได้แน่ๆ และวันนี้ ผมมีเคล็ดลับดีดี ในการจัดและตกแต่ง โต๊ะทำงานของคุณ ตามหลักฮวงจุ้ยกันดูบ้าง ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่แน่นะครับ อาจจะมีอะไรดีดีตามมาก็ได้ ^ ^ ถ้าปีนี้คุณมีงานหรือมีเรื่องวุ่นวายทำให้ปวดหมองอยู่เป็นประจำ ลองหารูปแม่น้ำที่ไหลนิ่งเอื่อยๆมีปลาแหวกว่ายไปมา ( ไม่เอา แบบน้ำป่าไหลหลาก ) หรือรูปต้นไม้เขียวอุดมสมบูรณ์วางไว้บนโต๊ะ หรือไม่ก็ลองติดรูปแม่น้ำไว้หลังเก้าอี้ก็ได้เชื่อว่า มันจะช่วยให้ คุณมีชีวิตราบรื่นขึ้น ไม่สับสนวุ่นวาย สำหรับคนที่คิดว่าเจ้านายไม่ค่อยรัก มีเพื่อนเพื่อนก็ไม่ค่อยปลื้ม เวลาติดต่องานทีไรก็มีเรื่องให้ติดขัดอยู่เสมอ ให้ลอง เปลี่ยนสกรีนเซฟเวอร์เป็นรูปดอกบัวสีชมพูในอ่างน้ำ หรือไม่ก็วางอ่างน้ำเล็กๆที่มีดอกบัวสีชมพูไว้มุมหนึ่งใดมุมหนึ่งของโต๊ะก็ได้ แค่นี้ก็ทำให้คุณดูน่ารักน่าเอ็นดู สามารถทำงานได้ง่ายสะดวกสบายขึ้นแล้ว ถ้าตอนนี้คุณยังทำงานเป็นลูกน้องอยู่ ให้ลองหาต้นเฟิร์นข้าหลวงมาวางไว้ที่โต๊ะทำงาน จะช่วยให้คุณทำงานได้แบบลูกน้องมือ โปรฯ แต่ถ้าใครที่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีแล้ว มีตำแหน่งเป็นเจ้าคนเจ้านายแล้วละก็ อย่าเผลอเอามาวางเชียว เพราะจะทำให้คุณทำงาน อย่างกับเป็นลูกน้องไปตลอด ใครที่ตอนนี้ทำงานมานานมากแล้วและรู้สึกเซ็งเหลือเกิน ทุกวันเจอแต่เรื่องจำเจแบบเดิมๆ ให้ลองเปลี่ยนสกีนเซฟเวอร์เป็น รูปตู้ปลาใสแจ๋วที่มีปลาแหวกว่ายไปมา หรือไม่ก็ลองย้ายตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆบนโต๊ะดู โดยให้ย้ายคอมพิวเตอร์มาไว้มุมซ้ายของ โต๊ะ และย้ายพวกอุปกรณ์เครื่องเขียนและโทรศัพท์มาไว้ที่มุมขวา หรือไม่ก็ลองหารูปภูเขาสีเขียวสดใสมาไว้ที่ด้านหลังดู นอกจาก นี้ อาจลองหาคางคกคาบเหรียญเล็กๆมาวางไว้ใต้โต๊ะก็ได้ แต่จะต้องซ่อนไว้ในมุมมืดของโต๊ะ จะช่วยทำให้คุณๆที่ทำงานมานานแล้ว รู้สึกมั่นคงขึ้น รู้สึกชีวิตสมดุลและสามารถควบคุมอารมณ์ในการทำงานได้ดีขึ้น ใครที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคน " เฉื่อย " เวลาทำงานก็เฉื่อย เพื่อนฝูงก็ไม่ค่อยอยากจะเจอ สังคมก็ไม่ค่อยอยากจะเข้า แต่ อยากเป็นคนกระฉับกระเฉงมากขึ้น ให้ลองหาตุ๊กตารูปไก่หน้าตาน่ารัก ( แต่ไม่ใช่ลักษณะแบบไก่ชนนะ ) มาวางบนโต๊ะ จะทำ ให้คุณเหมือนต้องคุ้ยเขี่ยจิกกัดมากขึ้น ไม่ปล่อยชีวิตให้ผ่านไปวันๆ อีกวิธีหนึ่งคือให้วางโทรศัพท์ไว้ที่มุมขวาของโต๊ะ จะช่วยให้คุณ ได้รับแต่ข่าวดีๆ จนทำให้คุณรู้สึกมุ่งมั่นและอยากทำงานให้จริงจังมากกว่าเก่า ไม่ใช่แค่ทำงานแบบขอไปทีเหมือนเดิม ถ้าช่วงนี้คุณไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกไฟทำงานเริ่มมอด ให้ลองหาแจกันสีแดงใส่ต้นไผ่กวนอิมเล็กๆมาวางบนโต๊ะ จะช่วยให้คุณมี สมาธิมากขึ้น นอกจากนี้สีแดงยังเป็นเหมือนธาตุไฟ ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกแอ็คทีฟขึ้นด้วย หรือไม่ก็ลองหารูปปั้นตุ๊กตารูปม้ามาวางไว้ ที่โต๊ะทำงาน ช่วยให้ไฟทำงานของคุณลุกโชนได้เหมือนกัน อีกวิธีการหนึ่งคือให้ลองวางเอกสารหรือหนังสืออะไรก็ได้ ที่มุมซ้ายของ โต๊ะทำงาน โดยจะต้องวางให้สูงกว่ามุมด้านขวา มันจะช่วยให้คุณรู้สึกทะเยอทะยาน และมุ่งมั่นกว่าที่เป็นอยู่ แต่ถ้าคุณเกิดจำผิดเผลอ วางด้านขวา อยู่สูงกว่าด้านซ้ายแล้วละก็งานเข้าแน่นอน งานจะกระหน่ำเข้ามาทำเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด ปัญหาก็จะท่วมท้นล้นพ้นแก้ เท่าไหร่ก็ไม่จบ ชีวิตคุณจะยุ่งเหยิงจนทำให้รู้สึกเฉื่อยและเบื่อในที่สุด หรือไม่ก็อาจต้องไปช่วยคนอื่นทำงาน จนตัวเองหมดไฟไปเอง นอกจากนั้นก็จะมีเคล็ดลับที่แบ่งโต๊ะทำงานออกเป็นทิศต่างๆเป็นส่วนๆ ตามหลักฮวงจุ้ยอีกดังนี้ 1. หน้าที่การงานพื้นที่สี่เหลี่ยมตรงหน้าคุณ เป็นธาตุน้ำ สีดำ บอกถึง “สถานะในอาชีพการงาน”ของคุณ หากพื้นผิวโต๊ะเป็นกระจกใส ให้หารูปภาพที่ เกี่ยวกับน้ำมาสอดไว้ข้างใต้กระจก แต่ถ้าเป็นพื้นผิวที่ทึบแสง ให้ตัดกระดาษเป็นรูปแปดเหลี่ยมสีดำเล็กๆ ซึ่งเป็นรูปทรงของยันต์ 8 ทิศแปะไว้ 2. สติปัญญาทางด้านซ้ายมือของคุณ คือตัวแทนของ “สติปัญญา” เหมาะอย่างยิ่งที่จะวางหนังสือต่างๆ สิ่งของที่เป็นสีฟ้า รวมทั้งถ้ามีลิ้นชักอยู่ บริเวณนี้จะดีที่สุด 3. ความเจริญรุ่งเรือง บริเวณซ้ายมือด้านหลัง จะช่วยส่งเสริมทางด้านความเจริญรุ่งเรือง จึงควรวางอุปกรณ์ เครื่องใช้ที่มีราคาแพงไว้ เช่น คอมพิวเตอร ์ หรืออุปกรณ์ที่มีราคาสูงอื่นๆ รวมไปถึงสิ่งของที่มีนัยด้านความรุ่งเรือง และต้นไม้มงคล เช่น ทองพันชั่ง เงินไหลมา เป็นต้น ทั้งนี้ ี้ทั้งนั้น คุณต้องคอยดูแลไม่ให้ต้นไม้เฉาตายด้วย 4. ครอบครัว ซ้ายมือเหนือขึ้นไปอีกนิดเกือบถึงกลางโต๊ะ คือบริเวณของ “ครอบครัว” ซึ่งเป็นธาตุไม้ ควรวางรูปของครอบครัวไว้บริเวณนี้ และถ้า เลือกเป็นกรอบรูปไม้ได้ด้วยจะดีมาก สิ่งของต่างๆ ที่เป็นสีเขียวก็สามารถวางไว้ตรงนี้ได้เช่นกัน 5. ชื่อเสียงและเกียรติยศ พื้นที่ตรงกลางด้านหลัง เป็นธาตุไฟ จะช่วยเสริมส่งด้าน “ชื่อเสียงและเกียรติยศ” ให้วางกล่องนามบัตรสีแดง และใบประกาศนียบัตร ถ้วยเกียรติยศต่างๆ ไว้บริเวณนี้ หรืออาจจะวางต้นไม้หนามแหลม เช่น ต้นกระบองเพชรไว้ด้วยก็ได้ 6. ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ด้านหลังขวามือของคุณ ช่วยสนับสนุนในเรื่องของ “ความสัมพันธ์” ทั้งความสัมพันธ์ของคุณกับเพื่อน คู่รัก และคนรอบข้างที่ใกล้ชิด ควรจัดให้ที่ตรงนี้ให้เป็นสีชมพู และหาสิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก เช่น รูปหัวใจ มาวางไว้ ก็จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณ เบ่งบานได้ตลอด 7. พลังแห่งการสร้างสรรค์ และเด็ก ขวามือค่อนไปทางกลางโต๊ะ เป็นธาตุเหล็ก ช่วยเสริมพลังสร้างสรรค์ให้กับคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ มากๆ เช่น ครีเอทีฟ ก็ให้หาสิ่งของน่ารัก ๆ เช่น แก้วกาแฟลายการ์ตูนที่ชอบมาวางไว้ หรือถ้าคุณมีลูกแล้ว ก็ให้เอากรอบรูปโลหะใส่ รูปลูกน่ารักๆ มาตั้งไว้จะเหมาะมาก 8. ความช่วยเหลือ และการเดินทาง ทางขวามือ เปรียบเสมือน แรงผลักดันด้านความช่วยเหลือ ลองหากล่องสีเงิน หรือเทา มาวางไว้ หากคุณต้องการความช่วยเหลือจาก ใคร ก็ให้เขียนชื่อของเขาคนนั้น แล้วหย่อนมันลงไปในกล่อง คราวนี้ จากนั้นรอฟังข่าวดีได้ เช่นกัน 9. สุขภาพ ตรงกลางของโต๊ะทำงาน จะคอยดูแลคุณในเรื่องสุขภาพ ลองหากระดาษสีเหลืองตัดเป็นรูปวงกลมเล็ก ๆ มาแปะเอาไว้ หากโต๊ะคุณ มีพื้นเป็นกระจก ก็ให้หารูปคุณที่ดูสุขภาพดีที่สุดมาสอดเอาไว้ก็ได้ ดี วิธีต่างๆ ที่กล่าวมา หากคุณไม่สามารถหาอุปกรณ์ที่บอกไปทั้งหมดได้ ก็อาจจะแก้ไขด้วยการนำกระดาษสี ซึ่งเป็นตัวแทนของทิศนั้น ๆ มาแปะไว้สักเล็กน้อยก็ได้ ที่สำคัญคือ อย่าลืมจัดของบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ ดูแล้วงามตาอยู่เสมอ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ดูลำบากกันบ้างรึเปล่า ซึ่งจริงๆแล้วถ้าหากเราลองมองกันดีดี ผมว่า นอกเหนือจากผลลัพธ์ที่จะได้จากการ จัดให้สัมพันธ์และเกิดสมดุลตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ทัศนียภาพบนโต๊ะทำงานต่างหากละครับ ที่เราจะได้รับแบบไม่ต้องสงสัย อย่าลืมนะ ครับว่า โต๊ะทำงานเป็นที่ที่เราต้องนั่งอยู่หลายๆชั่วโมง หากมีการปรับทัศนียภาพ มีการทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบ ผมว่าทุกๆคนเองก็ คงจะอยากทำงานกันมากขึ้น คิดอะไรได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และเมื่อเราสมองปลอดโปร่งคิดอะไรได้ง่าย ก็จะสงผลให้งานที่ได้ก็จะดีตาม ไปด้วย สุดท้ายนี้หลายๆคนคงสงสัยว่า แล้วโต๊ะทำงานของผมล่ะ เป็นยังไง ไม่มีอายอยู่แล้วครับ(หัวเราะ) วันนี้ผมคงขอลาทุกๆคนไป พร้อมกับภาพถ่ายของโต๊ะทำงานของผมเองแล้วกันครับ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ นพดล ลือประเสริฐชัย และข้อมูลจาก www.jobpub.com , www.arunsawut.com และนิตยสารคลีโอครับ ขอบคุณทุกๆคนมากครับ เจอกันบทความหน้า สวัสดีครับ |
Pr realestates | Management| Marketing |Advertising| Communication | Public Relations| Strategies | Economy
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หลักฮวงจุ้ย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หลักฮวงจุ้ย แสดงบทความทั้งหมด
หลักการจัดโต๊ะทำงาน ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน
สิ่งมงคล สัตว์มงคล เริมดวงการงาน หลังฮวงจุ้ย
สัตว์มงคล แก้เคล็ดฮวงจุ้ย เสริมดวงการงาน ปรับดวงชีวิตคู่
รูปปั้นช้าง
ช้างเป็นสัญลักษณ์ ของสติปัญญา ส่งผลให้การงานก้าวหน้า การตั้งช้างจะช่วยให้เกิดความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ การงานก้าวหน้าเป็นอย่างดี
ช้างจะนำโชคลาภมาสู่คุณ ทำให้ทำอะไรก็โชคดีไปหมด ช้างเป็นสัตว์ที่มั่นคง เข้มแข็ง จึงช่วยมอบพลังอันมหาศาลให้กับผู้เป็นเจ้าของสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ตำแหน่งที่วาง หากคุณต้องการเสริมดวง ด้านหน้าที่การงานโดยตรง ให้จัดวางรูปปั้นช้างไว้ด้านหลังเก้าอี้นั่งทำงาน
เพราะช้าง มีความมั่นคง แข็งแรง ซึ่งจะเป็นเสมือนภูเขาให้นั่งพิงอย่างมั่นคง และยังทำให้คุณรู้สึกว่ามีแรงหนุนที่ดีรองรับ ไม่ว่าทำสิ่งใด ก็ราบรื่นได้ดี
รูปปั้นปลาหลีฮื้อ
ปลาหลีฮื้อ เป็นสัญลักษณ์ของ การช่วยเพิ่มโชคลาภ ทำให้ค้าขายดี มีกำไร ทำให้หน้าที่การงานรุ่งเรือง เฟื่องฟู
คนที่เจ็บป่วยบ่อย ๆ แบบสามวันดี สี่วันไข้ ก็ให้จัดหาปลาหลีฮื้อมาประดับ เพื่อแก้คล็ดให้หายไว ๆ การจัดวาง ให้จัดวางปลีหลีฮื้อ โดยให้หันหัวปลา เข้าในตัวบ้าน
จะส่งผลให้เกิดพลังมงคลที่ดี ไหลเวียนภายในบ้านเสมอ และยังช่วยนำสิริมงคลให้เข้ามาในด้วย
หลักฮวงจุ้ยห้องนอน
ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อการนอนหลับฝันดี
ห้องนอนเป็นบริเวณที่เราใช้เวลาอยู่มากที่สุดในบ้าน ห้องนอนใหญ่ควรอยู่ห่างไกลประตูทางเข้าหลัก โดยเฉพาะ ถ้าสามารถจัดวาง ให้อยู่คนละมุมกับทางเข้าหลักจะดีมาก จะทำให้ห้องนอนใหญ่อยู่ห่างไกลจากสิ่งรบกวน
ตำแหน่งของเตียง เตียงนอนควรจะอยู่ในตำแหน่งที่ผู้พักผ่อนสามารถมองเห็นผู้ที่เข้ามาในห้องได้อย่างสะดวก ตามหลักแล้วตำแหน่งของเตียง ควรอยู่บริเวณมุมตรงข้ามกับประตูทางเข้าห้องนอน ปลายเตียงไม่ควรชี้ตรงไปยังประตู ซึ่งจะเป็นลักษณะของการจัดวางหลุมศพของชาวจีนในโกดังเก็บศพ เปรียบเสมือนตำแหน่งของความตาย
เตียงนอนไม่ควรวางอยู่ใต้คานเปลือย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้พักผ่อนเกิดอาการเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะ อวัยวะที่อยู่ใต้คานนั้น ตัวอย่างเช่น คานเปลือยที่วิ่งผ่านเตียงตรงหน้าอกของผู้พักผ่อนนั้น ผู้พักผ่อนมักจะมีอาการแน่นหน้าอกในขณะนอนหลับ เป็นต้น หัวเตียงควรจะติดผนัง แต่ไม่ควรวางเตียงติดผนังเกินสองด้าน ในกรณีที่ตั้งเตียงลอยๆ โดยไม่สัมผัสกับผนังใดๆ เลย จะส่งผลให้ผู้พักผ่อนรู้สึกไม่มั่นคง และต้องคอยระวังไม่ควรหันปลายเตียงให้ตรงกระจกเงา กระจกเงาที่ปลายเตียง จะสะท้อนพลังเข้าสู่ผู้พักผ่อน ส่งผลให้การพักผ่อนถูกรบกวนได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากกระจกเงาในห้องนอนมีมากมาย เราสามารถวางตำแหน่งกระจกเงาให้สามารถมองเห็นผู้ที่เข้ามาในห้องจากบนเตียงได้
ตำแหน่งของเตียงนอนควรเอื้อให้ผู้พักผ่อน สามารถเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้ แต่ต้องระวังการเปิดรับพลังชี่ (Shar หรือ ชี่ที่เลวร้าย) เข้ามาทางหน้าต่างด้วย การใช้ผ้าม่านช่วยในการปรับแสงและป้องกันมุมมองที่ไม่ดีจากภายนอกนับเป็นสิ่งที่ช่วยได้มาก
เตียงนอนไม่ควรวางข้างตู้ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะส่งผลรบกวนต่อผู้พักผ่อนเหมือนมีคนเฝ้ามองเราอยู่ อย่างไรก็ตาม เตียงนอนควรจะอยู่ในตำแหน่งของสุขภาพหรืออายุยืนยาวซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด
ใครที่อยากหลับฝันดีลองนำหลักการเหล่านี้ไปจัดห้องนอนของตัวเองก็ดี อย่างน้อยก็จะได้ปรับเปลี่ยนห้องนอนในสไตล์ใหม่ที่ไม่จำเจบ้าง
ตำแหน่งของเตียง เตียงนอนควรจะอยู่ในตำแหน่งที่ผู้พักผ่อนสามารถมองเห็นผู้ที่เข้ามาในห้องได้อย่างสะดวก ตามหลักแล้วตำแหน่งของเตียง ควรอยู่บริเวณมุมตรงข้ามกับประตูทางเข้าห้องนอน ปลายเตียงไม่ควรชี้ตรงไปยังประตู ซึ่งจะเป็นลักษณะของการจัดวางหลุมศพของชาวจีนในโกดังเก็บศพ เปรียบเสมือนตำแหน่งของความตาย
เตียงนอนไม่ควรวางอยู่ใต้คานเปลือย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้พักผ่อนเกิดอาการเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะ อวัยวะที่อยู่ใต้คานนั้น ตัวอย่างเช่น คานเปลือยที่วิ่งผ่านเตียงตรงหน้าอกของผู้พักผ่อนนั้น ผู้พักผ่อนมักจะมีอาการแน่นหน้าอกในขณะนอนหลับ เป็นต้น หัวเตียงควรจะติดผนัง แต่ไม่ควรวางเตียงติดผนังเกินสองด้าน ในกรณีที่ตั้งเตียงลอยๆ โดยไม่สัมผัสกับผนังใดๆ เลย จะส่งผลให้ผู้พักผ่อนรู้สึกไม่มั่นคง และต้องคอยระวังไม่ควรหันปลายเตียงให้ตรงกระจกเงา กระจกเงาที่ปลายเตียง จะสะท้อนพลังเข้าสู่ผู้พักผ่อน ส่งผลให้การพักผ่อนถูกรบกวนได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากกระจกเงาในห้องนอนมีมากมาย เราสามารถวางตำแหน่งกระจกเงาให้สามารถมองเห็นผู้ที่เข้ามาในห้องจากบนเตียงได้
ตำแหน่งของเตียงนอนควรเอื้อให้ผู้พักผ่อน สามารถเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้ แต่ต้องระวังการเปิดรับพลังชี่ (Shar หรือ ชี่ที่เลวร้าย) เข้ามาทางหน้าต่างด้วย การใช้ผ้าม่านช่วยในการปรับแสงและป้องกันมุมมองที่ไม่ดีจากภายนอกนับเป็นสิ่งที่ช่วยได้มาก
เตียงนอนไม่ควรวางข้างตู้ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะส่งผลรบกวนต่อผู้พักผ่อนเหมือนมีคนเฝ้ามองเราอยู่ อย่างไรก็ตาม เตียงนอนควรจะอยู่ในตำแหน่งของสุขภาพหรืออายุยืนยาวซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด
ใครที่อยากหลับฝันดีลองนำหลักการเหล่านี้ไปจัดห้องนอนของตัวเองก็ดี อย่างน้อยก็จะได้ปรับเปลี่ยนห้องนอนในสไตล์ใหม่ที่ไม่จำเจบ้าง
ข้อพึงรู้สำหรับห้องนอน
1. วางตำแหน่งของเตียงอย่างระมัดระวัง เพื่อว่าคุณจะได้ไม่นอนในแนวเดียวกับประตู คุณควรจะนอนอยู่ไกลทะแยงออกไปทางด้านขวา เมื่อเปิดประตูเข้ามา เตียงควรจะมองมายังประตูห้องนอนได้อย่างชัดเจน และควรจะอยู่ชิดผนังมากกว่าที่จะเป็นที่โล่งหรือหน้าต่าง
2. หลีกเลี่ยงตำแหน่งเตียงที่อยู่ใต้คาน หรือตู้ติดผนังที่ยื่นออกมาจากกำแพง
3. ควรจะมีหัวเตียงสำหรับเตียง อาจจะเป็นหัวเตียงที่ทำจากไม้กลึงมนหรือบุผ้าก็ได้
4. ถ้าเตียงของคุณหันหลังให้ประตูเข้า วางกระจกเงาไว้ที่ผนังฝั่งตรงข้าม เพื่อที่ว่าจะได้เห็นถึงผู้ที่กำลังเข้ามาในห้อง
5. ควรจะมีกระจกเพียงบานเดียวในห้องนอน กระจกรูปทรงกลมจะเหมาะสมที่สุด เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวเข้าหากันของพลัง
6. หลีกเลี่ยงเตียงที่มีโครงสร้างเป็นเหล็ก เหล็กจะสะท้อนคลื่นแม่เหล็กที่ส่งมาจากเครื่องไฟฟ้าต่างๆ
7. เลือกใช้ผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติสำหรับอุปกรณ์ในห้องนอนทุกชิ้นของคุณ
8. อย่าวางสิ่งใดๆที่เกี่ยวกับงานไว้ในห้องนอน หนังสือหัวเตียงควรจำกัดไว้เพียงหนึ่งถึงสองเล่ม
9. หลีกเลี่ยงการใช้ไฟจำพวกสปอตไลท์ (Spot Light) หรือไฟตรงตำแหน่งเหนือศรีษะ ตรงบริเวณหัวเตียง การให้แสงสว่างควรเป็นแสงที่นุ่มนวลกระจายมาจากดวงไฟต่างๆทั่วห้อง
2. หลีกเลี่ยงตำแหน่งเตียงที่อยู่ใต้คาน หรือตู้ติดผนังที่ยื่นออกมาจากกำแพง
3. ควรจะมีหัวเตียงสำหรับเตียง อาจจะเป็นหัวเตียงที่ทำจากไม้กลึงมนหรือบุผ้าก็ได้
4. ถ้าเตียงของคุณหันหลังให้ประตูเข้า วางกระจกเงาไว้ที่ผนังฝั่งตรงข้าม เพื่อที่ว่าจะได้เห็นถึงผู้ที่กำลังเข้ามาในห้อง
5. ควรจะมีกระจกเพียงบานเดียวในห้องนอน กระจกรูปทรงกลมจะเหมาะสมที่สุด เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวเข้าหากันของพลัง
6. หลีกเลี่ยงเตียงที่มีโครงสร้างเป็นเหล็ก เหล็กจะสะท้อนคลื่นแม่เหล็กที่ส่งมาจากเครื่องไฟฟ้าต่างๆ
7. เลือกใช้ผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติสำหรับอุปกรณ์ในห้องนอนทุกชิ้นของคุณ
8. อย่าวางสิ่งใดๆที่เกี่ยวกับงานไว้ในห้องนอน หนังสือหัวเตียงควรจำกัดไว้เพียงหนึ่งถึงสองเล่ม
9. หลีกเลี่ยงการใช้ไฟจำพวกสปอตไลท์ (Spot Light) หรือไฟตรงตำแหน่งเหนือศรีษะ ตรงบริเวณหัวเตียง การให้แสงสว่างควรเป็นแสงที่นุ่มนวลกระจายมาจากดวงไฟต่างๆทั่วห้อง
ที่มา ผู้จัดการ
Read more: http://www.novabizz.com/CDC/Fengshui/Bedroom.htm#ixzz1g6cEKmUA
หลักฮวงจุ้ย 2
ท่านผู้อ่านคงปฏิเสธไม่ได้ว่า สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเราไม่ว่า จะเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ สิ่งเหล่านี้ ล้วนมีผลต่อการดำเนินชีวิต ประจำวัน ของเราตลอดเวลา อย่างเช่น เมื่อท่านเจอแดดร้อนๆ (ซึ่งเป็นธาตุไฟ ) ท่านจะหาร่มไม้ เพื่อหลบแดด ให้ร่มไม้ช่วย คลายความร้อน ให้ท่าน (ธาตุลม) เมื่อหน้าหนาวเข้ามา ท่านก็จะจัดหา เสื้อกันหนาว เพื่อทำตัวให้อุ่นขึ้น เมื่อท่านร้อนกระหาย ท่านจะหาน้ำ เพื่อดับ ความร้อนในร่างกายของท่าน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างง่ายๆ ของการปรับ ความสมดุล ของมนุษย์กับ สภาพแวดล้อม ซึ่งเป็น หลักการ เดียวกับ ศาสตร์และศิลป์จาก ปรัชญาอันล้ำลึกนับพันปี ที่เน้นการสร้างสภาพแวดล้อม ทางธรรมชาติกับสังคม และ มนุษย์ ให้เกิดความสมดุล นำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต เราๆ ท่านๆ เรียกศาสตร์แขนงนี้ว่า "เคหะศาสตร์" หรือ "ฮวงจุ้ย" และบ้านก็ เหมือนกับ ร่างกายของท่าน ที่จะต้องเจอแดด เจอฝน ร้อนหนาว เช่นเดียวกัน ดังนั้น บ้านของท่านจึงควรได้รับ การจัดวางอย่าง ถูกต้องเหมาะสมกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ช่วยให้บ้านของท่านเป็นบ้านที่อยู่เย็นเป็นสุข และพบเจอแต่สิ่งดีๆ ในชีวิตของท่าน
เสริมหลักฮวงจุ้ย
ของแต่งบ้าน...เสริมหลักฮวงจุ้ย งานศิลป์ที่ผสมผสานศาสตร์แห่งความเชื่อ
สิ่งของทุกชิ้นมีเรื่องราว....มิใช่เพียงความสุขที่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งของเหล่านั้น จะบอกเล่าเรื่องราว เส้นทางของการได้สิ่งของเหล่านั้นมาครอบครอง ของประดับจึงไม่ใช่เป็นเพียงของตกแต่ง เติมเต็มให้แก่บ้านเท่านั้น แต่ยังสร้างความน่าสนใจ ให้กับพื้นที่ด้วยการร้อยเรียงเรื่องราว เพื่อบอกเล่าสู่ผู้มาเยือนได้เสมอ ทั้งยังคอยเตือนความทรงจำ ทุกครั้งที่จ้องมอง
เรื่องราวมากมายแฝงกับสิ่งของที่ใช้ในการตกแต่งบ้าน สิ่งต่างๆเหล่านั้นไม่เป็นแค่เพียงงานศิลปะ หรือของ ตั้งโชว์ เพื่อสร้างจุดสนใจใน การตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่บางสิ่งยังช่วยหนุนนำ ส่งเสริม บารมีแก่ผู้เป็นเจ้าของ
เรื่องราวมากมายแฝงกับสิ่งของที่ใช้ในการตกแต่งบ้าน สิ่งต่างๆเหล่านั้นไม่เป็นแค่เพียงงานศิลปะ หรือของ ตั้งโชว์ เพื่อสร้างจุดสนใจใน การตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่บางสิ่งยังช่วยหนุนนำ ส่งเสริม บารมีแก่ผู้เป็นเจ้าของ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)