Welcome to Blog ห้องสมุดความรู้ หากท่านถูกใจ ฝากกดแชร์( Like) (G+) (Tweet) ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้จัด ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง เฮงๆรวยๆ #4289

ผู้นำ มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้


วันนี้จะคุยกันเรื่องภาวะผู้นำกันอีกสักวันนะครับ เนื่องจากได้มีโอกาสไปคุยกับผู้ใหญ่ขององค์กรต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ก็เห็นสไตล์ของการเป็นผู้นำที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน บางคนก็สุดโต่งมากมาย บางคนก็ยอมไปทุกเรื่อง เรียกได้ว่า มากไปก็ไม่ดี ลูกน้องก็หาว่าโหด น้อยไปก็คุมคนอื่นไม่ได้อีก ถูกหาว่าอ่อนแอ ก็เลยมานั่งสรุปว่ามีประเด็นใดบ้างที่ผู้นำจะต้องระมัดระวัง และสร้างพฤติกรรมที่พอดีๆ ไม่มากไป หรือน้อยไป
  • ผู้นำจะต้องเข้มแข็ง แต่ถ้ามากเกินไปก็จะกลายเป็นก้าวร้าวได้เลยนะครับ ผู้นำในองค์กรบางคนคิดว่าการที่ตนเป็นผู้นำจะต้องแสดงออกถึงความเข้มแข็งของตนเองให้ลูกน้องเห็น ก็เลยมักจะใช้วาจาหยาบคาย เสียงดัง พูดคุยกันทีไร ก็เป็นการขึ้นเสียง และเอะอะโวยวายมากกว่า แต่เขากลับคิดว่านี่แหละคือความเข็มแข็งของผู้นำ ซึ่งจุดนี้มันก็เลยความเข้มแข็งไปแล้ว ความเข้มแข็งในที่นี้ก็คือ มีจุดยืนของตนเอง ไม่เอียงไปเอียงมาแบบคนที่ไม่มีหลักการ ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด ขาดความเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้นผู้นำที่ดีจะต้องเข้มแข็งแต่ไม่ก้าวร้าว
  • ผู้นำจะต้องมีจิตใจที่ดี ประเด็นนี้ก็เช่นกันครับ ถ้ามากเกินไปก็มีปัญหาตามมาได้ครับ เช่น ผู้นำบางคนถูกสอนว่าการเป็นผู้นำที่ดีนั้นจะต้องมีจิตใจที่ดี พอดีมากๆ เข้า ก็เข้าข่ายอ่อนแอกันเลยเหมือนกัน จนพนักงานต่างก็นินทาผู้นำว่า เป็นคนที่ยอมไปหมด ใครจะว่าอะไร ใครจะขออะไร ก็ให้หมด โดยไม่มีจุดยืนของตนเองเลย ดังนั้นผู้นำที่ดีจะต้องใจดี แต่ไม่ถึงกับอ่อนแอครับ
  • ผู้นำที่ดีต้องกล้าตัดสินใจ กล้าได้กล้าเสีย และกล้าตัดสินใจในสิ่งที่ตนจะต้องตัดสินใจ ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง หรือไม่กล้าเสี่ยง แต่ก็อีกเช่นกันที่บางคนก็กล้ามากไปหน่อย จนกลายเป็นคนที่มุทะลุก็มี แทนที่จะพิจารณาให้รอบคอบก่อนค่อยตัดสินใจ กลับลุยแหลก คิดเร็วทำเร็วด้วยความไม่รอบคอบ กล้ามากไปหน่อยก็เลยทำให้คนอื่นมองว่าเป็นผู้นำที่มุทะลุไม่รอบคอบซะงั้น
  • ผู้นำที่ดีต้องคิดอ่านอย่างรอบคอบ ต้องมีการเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ถ้ามากเกินไป ก็จะกลายเป็นถูกมองว่า คิดช้า ทำช้า หนักเข้าหน่อย ก็จะถูกมองว่า ไม่เคยคิดอะไรเลย ดังนั้นการรอบคอบมากเกินไป ก็อาจจะทำให้คนอื่นมองว่าเราเป็นพวกไม่คิดอีกก็เป็นได้ครับ
  • ผู้นำที่ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน มีความเข้าใจผู้อื่น และไม่อวดเบ่ง คิดว่าตนเองเก่งแล้ว หรืออยู่เหนือกว่าคนอื่นแล้วก็เลยทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าอ่อนน้อมถ่อมตนจนมากเกินไป ก็ทำให้เกิดปัญหาได้อีกเช่นกัน คนอื่นก็จะมองว่า ไม่มีความเข้มแข็งไปได้อีกเหมือนกัน แต่ถ้าไม่อ่อนน้อมเลย คนอื่นก็มองอีกว่า ผู้นำคนนี้เป็นพวกอวดดี เย่อหยิ่งทะนงตน ก็ทำให้คนอื่นไม่ชอบอีกเช่นกัน
  • ผู้นำที่ดีต้องมีอารมณ์ขัน แต่ถ้ามีมากเกินไป ก็จะถูกมองว่า ไร้สาระอีก หรือถ้าเอาทุกอย่างมาทำตลกไปหมด ผู้นำคนนั้นก็จะกลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นได้ อาจจะทำให้ลูกน้องขาดความเชื่อถือไปโดยปริยาย แต่ถ้าไม่มีอารมณ์ขันเลย ลูกน้องก็จะมองว่าเครียดเกินไปหรือเปล่า
อ่านจบแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ ยากมั้ยครับในการที่จะเป็นผู้นำที่ดีสักคน มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้ ก็คงต้องหาจุดกลางๆ ที่เหมาะสม ซึ่งความเหมาะสมนี้ก็คงกำหนดยากนะครับ อยู่ที่แต่ละคน และอยู่ที่สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน
คนที่สามารถบอกเราได้ว่า เรามากไป หรือน้อยไป ก็คือ พนักงานในองค์กรครับ ดังนั้นผู้นำที่ดีควรจะใช้พนักงานในองค์กรเป็นกระจกส่องตัวเองว่า เราเป็นอย่างไรในสายตาของพนักงาน และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นผู้นำที่ดีขึ้นได้ครับ มีผู้นำในโลกนี้หลายคนนะครับ ที่ให้พนักงานในองค์กรประเมินภาวะผู้นำของเขาว่ายังขาดอะไร มีจุดบกพร่องในเรื่องอะไรบ้าง จากนั้นก็เริ่มต้นพัฒนาตนเองเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องนั้นครับ
เนื่องจากผู้นำกลุ่มนี้เชื่อว่า ถ้าเขาเป็นผู้นำที่ดี และสามารถซื้อใจพนักงานได้ ก็จะทำให้พนักงานทุ่มเทและสร้างผลงานให้กับองค์กรที่เขาเป็นผู้นำอยู่ ในทางตรงกันข้าม ถ้าผู้นำไม่สามารถสร้างความเชื่อถือให้กับพนักงานได้เลย ผลก็คือ ผลงานจะไม่ออก เพราะพนักงานเองก็ขาดความทุ่มเท ขาดพลัง และขาดแรงจูงใจที่จะทำงานให้กับผู้นำที่ตนเองไม่เชื่อถือนั่นเองครับ

การจัดวางโต๊ะทำงาน



ในวิชาฮวงจุ้ยกล่าวไว้ว่า การจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยในสำนักงาน การจัดวางโต๊ะทำงานของพนักงานและการตกแต่งภายในสำนักงานล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประกอบการและประสิทธิ์ภาพในการทำงานของบริษัทหรือองค์กรนั้นๆ สำหรับสถานที่ที่ส่งผลต่อการดำเนินกิจการมากที่สุดก็คือ พื้นที่ที่จัดเป็นห้องของผู้บริหารเพราะในทางฮวงจุ้ยผู้บริหารเปรียบกับกัปตันเรือที่จะนำพาบริษัทหรือองค์กรให้ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว การเลือกตำแหน่งโต๊ะทำงานของผู้บริหารจึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก โดยการเลือกห้องทำงานของผู้บริหารในตำแหน่งมงคล และตั้งโต๊ะทำงานหันหน้าไปสู่ทิศมงคลประจำตัวแต่ทั้งนี้การจัดวางโต๊ะทำงานต้องไม่ขัดแย้งกับสภาพของห้องทำงาน


สำหรับตำแหน่งที่ตั้งของโต๊ะทำงานในระดับปฏิบัติการก็มีผลสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะบุคคลเหล่านี้เปรียบได้กับกลไกที่ทำให้การดำเนินงานของบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่นหรือเกิดการติดขัดและในเรื่องของการจัดวางตำแหน่งของโต๊ะทำงานของพนักงานภยในสำนักงานมีข้อแนะนำให้นำไปปฏิบัติดังนี้



1. การจัดโต๊ะทำงาน ต้องไม่ตั้งโต๊ะทำงานหันหน้าเข้าหากำแพง หรือหันหลังให้กับประตูทางเข้าออก ทั้งนี้ เพราะตามหลักวิชาฮวงจุ้ยกล่าวไว้ว่า การนั่งทำงานโดยหันหน้าเข้าหากำแพงจะทำให้ขาดวิสัยทัศน์และส่งผลให้งานที่ทำพบกับปัญหาและอุปสรรคอยู่ตลอดเวลา ส่วนการนั่งทำงานโดยหันหลังให้กับประตูทางเข้าออกนั้นวิชาฮวงจุ้ยตักเตือนเอาไว้ว่าจะทำให้ขาดโอกาสที่ดี และที่สำคัญคือ จะทำให้ไม่สามารถควบคุมการทำงานได้อย่างเต็มที่


2. การจัดโต๊ะทำงานที่ดีหากเป็นไปได้ควรจัดวางโต๊ะทำงานให้สามารถเดินเข้า ออกได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของโต๊ะเป็นสัญลักษณ์ของการที่ผู้ทำงานทางออกในแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนด้านหลังของโต๊ะทำงานควรเป็นผนึงทึบตัน หรืออย่างน้อยที่สุดเป็นโต๊ะทำงานของบุคคลอื่น และที่สำคัญด้านหลังของโต๊ะทำงานไม่ควรเป็นทางเดิน เพราะจะทำให้ผู้ทำงานขาอสมาธิในการทำงาน และในทางฮวงจุ้ยตักเตือนว่าโต๊ะทำงานที่ด้านหลังเป็นทางเดินบุคคลที่นั่งทำงานบนโต๊ะนั้น จะขาดไร้ผู้ช่วยเหลือและปกป้องคุ้มครองอย่างจริงใจ


3. ตำแหน่งที่ตั้งของโต๊ะทำงานไม่ตั้งตรงกับแนวประตู ทั้งนี้ ไม่ว่าแนวประตูนั้นจะตั้งอยู่ทางด้านหน้า ด้านหลัง หรือ ทางด้านข้าง ของโต๊ะทำงาน เพราะส่งผลเสียทำให้ผู้ที่ใช้โต๊ะนั้นเป็นที่นั่งทำงานไม่สามารถรับโอกาสที่ดีหรือเรื่องที่ดีที่เข้ามาในขณะทำงานเอาไว้ได้ นอกจากนี้ การตั้งโต๊ะทำงานตรงกับแนวประตูจะทำให้พลังภายในร่างกายของผู้ที่ใช้โต๊ะนั้นเกิดการรั่วไหลและไม่มีสมาธิในการทำงานและมักเกิดความผิดพลาดในการทำงานได้ง่าย สำหรับแนวทางในการแก้ไข ทางที่ดีที่สุดคือย้ายโต๊ะ ให้พ้นจากแนวประตูทางเข้า ออกนั้น แต่ถ้าไม่สามารถทำไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ให้ผู้ที่นั่งทำงานบนโต๊ะนั้นจัดหาลูกแก้วคริสตัล หรือลูกแก้วเจียรนัย มาตั้งวางเอาไว้บนโต๊ะทำงานเพื่อกระจายพลังอัปมงคลของแนวประตูที่พุ่งเข้าใส่


แต่ทั้งนี้ไม่รวมโต๊ะทำงานของพนักงานประชาสัมพันธ์ เพราะตำแหน่งของพนักงานประชาสัมพันธ์มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับเรื่องของผู้ที่มาติดต่องานและโต๊ทำงานของพนักงานประชาสัมพันธ์ส่วนมากก็ถูกอกแบบให้เคาเตอร์ที่สูงกว่าโต๊ะทำงานปกติอยู่แล้ว


4. ตำแหน่งที่ตั้งโต๊ะทำงานของหัวหน้างาน หัวหน้าแผนก ควรจัดวางเอาไว้ทางด้านหลังของผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งนี้เพราะเป็นตำแหน่งที่หัวหน้างานสามารถเห็นการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาได้ และข้อควรระวังคือไม่ควรตั้งโต๊ะของหัวหน้าแผนกตรงกับทางเดินเพราะจะทำให้ผู้ที่ทำงานบนโต๊ะนี้ได้รับผลเสียเหมือนกับการตั้งโต๊ะตรงกับแนวประตู





5. การจัดวางโต๊ะทำงานที่ถูกต้อง หากเป็นไปได้ควรจัดโต๊ะทำงานหันหน้าไปสู่ทิศที่เป็นมงคลของตนเอง แต่ถ้าทำได้ยาก ก็ให้หันหน้าโต๊ะทำงานไปทางประตูทางเข้าออกและที่ดีที่สุดควรจัดวางตำแหน่งของโต๊ะทำงานตามตำแหน่งหน้าที่และสายการบังคับบัญชา


6. ห้องทำงาน หรือ โต๊ะทำงาน จะต้องไม่ตั้งอยู่ใต้หรือเหนือห้องน้ำ – ห้องส้วม ทั้งนี้ เพราะในวิชาฮวงจุ้ยตักเตือนว่า พลังอัปมงคลของห้องน้ำ – ห้องส้วม จะกดทับพลังแห่งความโชคดีของห้องทำงานและโต๊ะทำงานให้หมดไป และด้านหลังของโต๊ะทำงานหรือห้องทำงานไม่ควรเป็นห้องน้ำ ห้องส้วม และ เหนือโต๊ะทำงาน ต้องไม่มีสิ่งของที่เป็นวัตถุขนาดใหญ่ หรือมีน้ำหนักมากตั้งอยู่ เช่น แอร์ หรือตู้เก็บเอกสารแบบแขวนผนัง ทั้งนี้ เพราะในวิชาฮวงจุ้ยตักเตือนว่า พลังจะกดทับของวัตถุขนาดใหญ่จะทำให้คนที่ทำงานในตำแหน่งนี้เก็บกด ถูกบีบคัด ไม่สบายใจ


7. ในทุกครั้งที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงาน หากมีความรู้สึกเหมือนว่ากำลังนั่งอยู่ในกล่อง หรือช่องแคบ ความรู้สึกเช่นนี้ ย่อมถือเป็นนัยที่แสดงให้รู้ถึงสภาพของพลังที่ถูกบีบบังคับ กดดันและตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าสามารถส่งผลกระทบไปถึงสภาพและผลสำเร็จของงานที่ทำอยู่ ดังนั้น จึงสมควรแก้ไขสภาพของโต๊ะทำงานให้ถูกต้อง ในทางตรงกันข้าม โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กว้างขวางใหญ่โตโดยไม่มีห้องรองรับ หากมีความรู้สึกเหมือนว่ากำลังนั่งอยู่ในสนามที่กว้างใหญ่มีลดพัดแพง ความรู้สึกเช่นนี้ ย่อมถือเป็นนัยที่แสดงให้รู้ถึงสภาพของพลังที่ถูกแพร่กระจาย รวมปราณไม่ได้ และตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าสามารถส่งผลกระทบไปถึงสภาพและผลสำเร็จของงานที่ทำอยู่ ดังนั้น จึงสมควรแก้ไขสภาพของโต๊ะทำงานให้ถูกต้อง เช่นกัน


8. โต๊ะทำงานที่ดี จะต้องมีความมั่นคงแข็งแรง ข้อสำคัญคือ ด้านบนของโต๊ะควรเป็นพื้นเรียบและทึบตัน ไม่ควรเป็นพื้นกระจกใสที่สามารถมองทะลุลงไปโต๊ะทำงานได้ ทั้งนี้ เพราะในวิชาฮวงจุ้ยตักเตือนว่าจะบั่นทอนพลังในการทำงานและไม่มีสมาธิในการทำงาน


9. เก้าอี้ทำงานที่ดี ต้องมีความสมดุลกับผู้นั่ง เพราะจะช่วยให้นั่งทำงานมีความสะดวกในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความสัมพันธ์กับพื้นที่ด้านหลังด้วย กล่าวคือ เวลาผู้นั่งขยับเก้าอี้เพื่อเคลื่อนตัวเข้า – ออก ต้องกระทำได้อย่างสะดวก และลักษณะเช่นนี้เองที่ หลักฮวงจุ้ยรับรองว่าสามารถช่วยให้ผู้นั่งได้รับพลังอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้การทำงานราบรื่นหรือมีทางออกตลอดแวลาแล้ว ยังจะช่วยให้ภาวะการเงิน คล่องตัว อีกด้วย


10. ด้านหลังของโต๊ะทำงาน ซึ่งนอกจาก ไม่สมควรมีน้ำและกระจกแล้ว(ไม่ว่าจะเป็นกระจกเงาหรือกระจกใส)และพื้นที่ดังกล่าวควรเป็นผนังกำแพงที่ทึบตันแล้ว ยังควรที่จะตกแต่งโดยการแขวนภาพภูเขาที่สวยงามขนาดใหญ่ หรือประกาศนียบัตรทางด้านการศึกษาหรือการทำงาน ทั้งนี้ เพื่อเป็นเคล็ดสร้างพลังเกื้อหนุนค้ำจุน และช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำให้มีมากขึ้น


11. หน้าโต๊ะทำงาน ควรตั้งวางเก้าอี้จำนวน 2 ตัวเสมอ เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ร่วมงานได้นั่งหรือเข้ามาพบ ลักษณะเช่นนี้ แม้ว่างานที่ทำจะเป็นงานที่ไม่ต้องรับลูกค้าก็ตาม ทั้งนี้ เพราะในวิชาฮวงจุ้ย ถือเป็นเคล็ดที่พร้อมจะต้อนรับโอกาสดีที่ผ่านเข้ามา


12. บนโต๊ะทำงาน ต้องไม่ตั้งวางสิ่งของจนรก หรือ วางของระเกะระกะ แต่ควรปล่อยให้บนโต๊ะมีพื้นว่างให้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่ด้านหน้า ที่ใช้ทำงาน ทั้งนี้ เพราะในวิชาฮวงจุ้ยทักทายว่า ... ความรกบนโต๊ะหมายถึงความไม่เป็นระเบียบ หรือ นัยหมายถึงอุปสรรคในด้านต่างๆ ที่มีต่อภาวการณ์งานและการเงิน


13. ที่โต๊ะทำงาน หรือ ภายในห้องทำงานสมควรทำเคล็ดด้วยการประดับด้วยสัญลักษณ์หรือตัวแทนของเงิน เช่น การแขวนเหรียญจีนโบราณ 9 เหรียญ ที่ผูกด้วยด้ายแดงเอาไว้ด้านหลังพนักเก้าอี้ทำงานเพื่อสร้างให้มีพลังการเงินที่ดี หรือการติดเหรียญจีนโบราณจำนวน 3 เหรียญที่ผูกด้วยด้ายแดงเอาไว้บนสมุด บนปกแฟ้มสำคัญ บนโทรศัพท์ หรือ โต๊ะทำงาน เพื่อสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย


บนโต๊ะทำงานของผู้ทำงานเกี่ยวกับการเงิน ให้ทำเคล็ดด้วยการตั้งวางลูกคิดเครื่องคิดเลข (ที่ใช้การได้เป็นอย่างดี) สมุดบัญชีรับ ทั้งนี้ ก็เพื่อดึงดูดเงินทองและความมั่งคั่งให้กับสถานที่ทำงาน

แก้เคล็ดฮวงจุ้ยส่งเสริมการทำงาน


แก้เคล็ดฮวงจุ้ยส่งเสริมการทำงาน


ที่ทำงานวุ่นวายมาก งานมีปัญหาบ่อย เจ้านายไม่ค่อยส่งเสริม
เพื่อนร่วมงานขี้อิจฉา ให้แก้เคล็ดตามวันเกิดดังต่อไปนี้



คนเกิดวันอาทิตย์ 

มีปัญหากับเจ้านายควรจะเสริมดวงชะตาด้วยน้ำ 1 แก้วใหญ่หรือจะใส่ในแจกันแก้วใส
วางไว้บนมุมขวามือ ของโต๊ะทำงาน ห้ามนำไปดื่ม และเทน้ำทิ้งทุกวัน น้ำจะเป็นตัวตกกระทบพลังด้านลบต่างๆ และจะช่วยแก้ไขปัญหาให้
ค่อยๆเย็นลงได้
มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานควรจะแก้เคล็ดเสริมดวงด้วยการนำต้นไม้ต้นเล็กๆมาวางบน
โต๊ะทำงานหรือชั้นวางของข้างหลังที่นั่ง
จะเป็นบอนไซ ตะโกดัด หรืออะไรก็ได้ และควรจะมีดินด้วย แต่อย่าใช้ดินวิทยาศาสตร์
ที่ทำงานวุ่นวายเมื่อมีแต่เรื่องที่ทำให้เครียด
ไม่สบายใจ ควรใช้หินโรสควอตซ์สีชมพูตกแต่งเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆนำมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน ก็จะสามารถ
แก้เคล็ดเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้นได้เช่นกัน



ไม้มงคลประจำวันเกิด


ราชพฤกษ์
       

 
บัว
       คนเกิดวันอาทิตย์ : ไม้มงคลจะเป็นพวกไม้ดอกสีเหลือง หรือสีส้ม เนื่องจากสีเหลืองและสีส้มเป็นสีที่ถูกโฉลกและเป็นต้นไม้สิริมงคลของคนที่เกิดวันนี้ โดยเฉพาะ สำหรับไม้มงคลของคนเกิดวันอาทิตย์ที่น่าสนใจ ราชพฤกษ์หรือคูน โป๊ยเซียน(สีเหลืองหรือส้ม) โกสน (เน้นที่ใบมีสีเหลืองแซมเยอะๆ )ชบา(สีเหลืองและส้ม) จำปา (สีเหลืองอีกเช่นกัน)
     
       คนเกิดวันจันทร์ : ไม้มงคลควรเป็นไม้ที่มีดอกสีขาวหรือเหลืองจะถูกโฉลกมาก คนเกิดวันจันทร์จะมีต้นไม้มงคลให้เลือกปลูก ดังนี้ วาสนา โกสน (ชื่อพ้องกับคำว่า กุศล) ราตรี มะลิ มะม่วง กวนอิม โป๊ยเซียน แก้ว จำปี พลูด่าง กระถิน มะยม ชะพลู
     
       คนเกิดวันอังคาร : สีไม้มงคลของคนวันอังคารคือ สีแดง หรือชมพู ดังนั้นไม้ดอกที่ปลูก ควรเป็นสีใดสีหนึ่งในนี้ ซึ่งก็ได้แก่ กุหลาบ(แดงหรือชมพู) อัญชัน โกสน โป๊ยเซียน เข็ม ชบา พญายอ
     
       คนเกิดวันพุธ : ไม้มงคลสำหรับมีหลายชนิด ไม่ว่าจะเกิดพุธกลางวันหรือกลางคืนจะมีไม้มงคลอย่างเดียวกัน คือไม้ที่มีดอกสีเหลืองเพราะเป็นสีต้องโฉลก โดยไม้มงคลที่เด่นๆก็มี กวนอิม วาสนา พลูด่าง โป๊ยเซียน กล้วย ราชพฤกษ์หรือคูน กุหลาบ โกสน ชบา
      

ผลไม้มงคลของไทย

ผลไม้มงคลของไทยมี5อย่างได้แก่
1. ลำไย เป็นผลไม้มงคล ซึ่งคนจีนบางกลุ่มนำไปใช้ร่วมกับพิธีการสูง เพราะเชื่อกันว่า เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความหวานชื่น สำหรับหนุ่มสาวในงานพิธีมงคลนั้นๆ ลำไยภาาจีนแปลว่า ดวงตามังกร ซึ่งมังกรเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องเต้เมืองจีน ดังนั้นหมายถึง ความเป็นผู้ที่มีอำนาจ เป็นผู้นำปวงชน และเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพนับถือ ฉะนั้น ลำไยคือผลไม้มงคลที่เชื่อว่า เป็นตัวแทนแห่งความรัก ความเป็นผู้นำ และความมีอำนาจวาสนา

2. ลิ้นจี่ เป็นผลไม้ชั้นสูงของคนจีนมาเป็นเวลานานแล้ว มีเรื่องเล่ากันว่า ฮ่องเต้ของเมืองจีนในสมัยหนึ่ง ต้องให้ทหารผู้ที่ดูแลพระองค์จัดหาลิ้นจี่น ผิวสวยสีแดงสด เพื่อนำไปถวายพระมารดา และพระมเหสีของพระองค์เป็นประจำ จึงเกิดการแพร่หลายไปในขุนนางชั้นสูงต่อกัน จนเป็นที่รู้กันทั่วไป เพราะผลที่มีสีแดงของลิ้นจี่นี่เอง ทำให้เป็นที่นิยมนำลิ้นจี่ไปใช้ในงานมงคล ฉะนั้น ลิ้นจี่คือผลไม้ที่มีสีแดงสด ซึ่งคนจีนถือว่าเป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคง