Welcome to Blog ห้องสมุดความรู้ หากท่านถูกใจ ฝากกดแชร์( Like) (G+) (Tweet) ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้จัด ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง เฮงๆรวยๆ #4289
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธุรกิจ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธุรกิจ แสดงบทความทั้งหมด

บทเรียนจากเอเวอร์แกรนด์



 ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา คงไม่มีข่าวในแวดวงธุรกิจข่าวไหนจะดังยิ่งกว่าข่าวการผิดนัดชำระดอกเบี้ยของ ไชน่าเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับสามของจีน

.
บริษัทไชน่าเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป เดิมชื่อ เฮงดากรุ๊ป (Hengda Group) ก่อตั้งในปี 1996 โดย สวี่ เจียยิ่น (Xu Jiayin) หรือหากอ่านเป็นภาษาจีนกวางตุ้งจะเป็น ฮุยกาหยาน (Hui Ka Yan) ปัจจุบันอายุ 63 ปี หากท่านอ่านข่าวแล้วงงว่าประธานบริษัทชื่ออะไรกันแน่ ทั้งสองชื่อเป็นคนเดียวกันค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าจะอ่านเป็นภาษาจีนกลาง หรือจีนกวางตุ้ง
.
บริษัทเอเวอร์แกรนด์ ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเติบใหญ่จนเข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี พ.ศ. 2552 ใช้รหัส 3333:HK ในขณะนั้นมียอดขายปีละ 30,300 ล้านหยวน หรือประมาณ 140,000 ล้านบาท และได้เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ จนขยายอาณาจักรไป ลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า เป็นเจ้าของทีมฟุตบอลในเมืองกวางโจว และถือหุ้นในธนาคารพาณิชย์
.
บริษัทสร้างที่อยู่อาศัยไปมากกว่า 1,300 โครงการ ใน มากกว่า 280 เมืองทั่วประเทศจีน และมีรายได้ในปี 2563 เท่ากับ 507,248 ล้านหยวน หรือประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท กำไรสุทธิในปี 2563 เท่ากับ 8,076 ล้านหยวน หรือประมาณ 41,590 ล้านบาท แต่อัตรากำไรสุทธิต่ำมากคือ 1.59% (ข้อมูลจากบลูมเบิร์ก)
.
บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยอาศัยเงินทุนหมุนเวียนจากการกู้ยืม มียอดหนี้มากกว่า 1.95 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 10 ล้านล้านบาท โดยหนึ่งในสามของเงินกู้ยืม เป็นการกู้จากนอกตลาด หรือเรียกว่า shadow loan ซึ่งทางการจีนเข้าควบคุมเข้มงวดตั้งแต่ปี 2019 จึงทำให้แหล่งเงินกู้ยืมนี้เหือดหายไป
.
ข้อมูลจากบีบีซีแสดงว่า บริษัทเป็นหนี้ธนาคารจีน 171 แห่ง และเป็นหนี้บริษัทเงินทุนอีก 121 แห่ง
.
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการออกหุ้นกู้ขายจำนวนมาก โดยบริษัทเป็นผู้ออก Junk Bond รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย
.
อาการของ เอเวอร์แกรนด์เริ่มปรากฏมาตั้งแต่ปี 2020 ที่บริษัทจะนำบริษัทลูกเข้าตลาดแบบแบคดอร์ (backdoor) แต่เข้าไม่ได้ จึงต้องจ่ายเงินคืนผู้ลงทุน ประกอบกับหนี้ของบริษัทถึงกำหนดชำระในปี 2020 จำนวนมาก บริษัทขาดสภาพคล่องและเริ่มเกิดการค้างจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้การค้า บางโครงการถูกระงับไม่ให้ขายต่อ เนื่องจากทางการท้องถิ่นต้องการปกป้องผู้ซื้อที่วางเงินดาวน์ไว้แล้ว ทำให้บริษัทต้องหาเงินไปเติมในบัญชีพักเพื่อประกันว่าบริษัทจะสร้างบ้านได้เสร็จ (บัญชีเอสโครว์)
.
ทางออกของบริษัทคือต้องขายทรัพย์สินเพื่อนำมาใช้เป็นสภาพคล่อง จ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ย และนำมาหมุนเวียนดำเนินงานต่อไป เนื่องจากทรัพย์สินของบริษัท 2.3 ล้านล้านหยวน ยังมีสินทรัพย์ที่สามารถขายได้ ทั้งที่ดินเปล่าที่ซื้อไว้ ทั้งเงินลงทุนในบริษัทต่างๆ แต่การขายทรัพย์สินในยามนี้มิใช่ทำกันได้ง่ายๆ หรือได้ราคา เพราะวิกฤติโควิด ก็ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซา มีสินทรัพย์รอขายมากมาย การจะขายสินทรัพย์ให้ได้ราคาที่เหมาะสมเพื่อมาคืนหนี้จึงทำได้ยากค่ะ
.
ณ ปัจจุบัน หุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐของบริษัทมีราคาลดลงเหลือประมาณ 20% ของเงินต้น และราคาหุ้นลดจาก 17.76 เหรียญฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว เหลือล่าสุด 2.95 เหรียญฮ่องกง ก่อนถูกสั่งให้หยุดการซื้อขาย ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม
.
มีการคาดหวังให้ทางการจีนเข้าไปอุ้ม แต่นักวิเคราะห์ต่างคาดเดาว่า คงเป็นไปได้ยาก อาจมีการดูแลบางส่วน เช่น ผู้ซื้อบ้าน หรือผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย แต่คงไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบันที่ถือหุ้นกู้เพราะชอบใจในผลตอบแทนที่ให้ไว้ค่อนข้างสูง (10-12% ต่อปี) หรือเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน
.
นอกจากนี้ เมื่อทางการจีนประกาศนโยบาย สร้างความอยู่ดีกินดี แบ่งปันความมั่งคั่งให้ถ้วนหน้าออกมาเมื่อเร็วๆนี้ ยิ่งทำให้การเข้าไปอุ้มบริษัทเอกชน เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น เพราะจะขัดกับหลักการที่ประกาศไว้
.
บริษัทคงต้องซื้อเวลาด้วยการขยายกำหนดเวลาจ่ายคืนหนี้สินต่างๆ รอขายทรัพย์สินที่มี เพื่อนำสภาพคล่องมาใช้ดำเนินการ เพื่อให้บริษัทเก็บเงินค่าขายบ้าน และนำไปใช้คืนเจ้าหนี้ต่อไป
.
คาดว่าเจ้าหนี้จะได้เงินคืน แต่จะได้คืนครบหรือไม่ ได้ดอกเบี้ยในอัตราเท่าใด ต้องขึ้นอยู่กับราคาสินทรัพย์ที่จะขายได้ค่ะ
.
เบื้องต้น กรณีนี้มีสองบทเรียน
.
บทเรียนแรก “การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง” ผู้ลงทุนจึงต้องประเมินความเสี่ยงในการลงทุน จะลงทุนเพราะเห็นว่าจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูงอย่างเดียวไม่ได้
.
บทเรียนที่สอง กรณีนี้ชี้ให้เห็นว่า “ใหญ่เกินกว่าที่จะล้ม” หรือ Too big to fail ที่เคยใช้กันมาตลอดว่า หากนิติบุคคลใดนิติบุคคลหนึ่ง มีขนาดใหญ่มาก มีการทำธุรกรรมเกี่ยวข้อกับระบบสถาบันการเงินและผู้ลงทุนจำนวนมาก หากปล่อยให้ล้มหายตายจาก หรือเป็นอะไร ไป จะส่งผลกระทบต่อระบบ ดังนั้น จำเป็นต้องพยุงรักษาไม่ให้ล้ม ที่เคยใช้กันมาในอดีตนั้น อาจจะใช้ไม่ได้ในยุคหลังโควิดนี้ค่ะ เพราะหากอุ้ม คงต้องอุ้มกันมากมาย
.
ผู้แข็งแกร่ง ปรับตัวได้ ผู้ที่สะสมทุนไว้มาก มีความมั่นคง เหมือนต้นไม้ที่มีรากแก้วหยั่งลึก เมื่อมีพายุ ก็จะฝ่าฟันไปได้ ต้นไม้เล็กๆ ยังมีรากที่ไม่มั่นคง อาจต้องล้มหายตายจากไปบางส่วน หากฝ่าฟันพายุไปได้ในคราวนี้ ในอนาคต ก็น่าจะมีโอกาสเติบใหญ่ แข็งแรงต่อไป
.
“ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” นั้นจริงนักแล
.
คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ
.
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นกรณีศึกษา มิได้มีความประสงค์จะเชิญชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทดังกล่าว
.
บทความโดย วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ | MoneyPro
.
.

5W1H ก่อนเริ่มต้นธุรกิจเวบไซต์

6 คำถามง่ายๆ ก่อนเริ่มต้นธุรกิจเวบไซต์ (5W + 1H) 



ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ  www.pawoot.com




             หลายๆ คนที่อยากจะเริ่มต้นทำธุรกิจเวบไซต์ หรือ ทำอี-คอมเมิร์ซมักมาถามผมว่า จะเริ่มต้นทำธุรกิจเวบไซต์ต้องทำอย่างไร และต้องใช้อะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ผมก็มักจะถามเค้ากลับไปว่า คุณได้วิเคราะห์ธุรกิจที่คุณจะทำรึยังว่ามีความพร้อมแค่ไหน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะถามกลับมาว่า เค้าต้องวิเคราะห์อะไรบ้าง? และจะต้องทำอย่างไร?





โครงสร้างแผนธุรกิจ SME


โครงสร้างแผนธุรกิจ สำหรับ SMEs

1. บทสรุปผู้บริหาร     •  ความเป็นมาและสถานะของกิจการในปัจจุบัน
           -  ชื่อและที่ตั้งกิจการ / ชื่อผู้บริหารที่สำคัญ / ประเภทสินค้าที่ขาย / ยี่ห้อสินค้า (ถ้ามี)
           -  กลุ่มลูกค้าหลัก / ส่วนแบ่งตลาด / คู่แข่งที่สำคัญความสามารถในการแข่งขันของกิจการ
           -  ฐานะของกิจการ (เงินทุน-เงินกู้) และผลประกอบการในปัจจุบัน
      •  โอกาสทางธุรกิจ และแนวคิดในการจัดทำโครงการ
            -  ความเป็นมาของโครงการ / วัตถุประสงค์ของโครงการ (เพื่อขยายสาขา / เพื่อจัดตั้งกิจการใหม่ / เพื่อปรับปรุงกิจการ)
           -  การลงทุนในโครงการ และแหล่งที่มาของเงินทุน
      •  วัตถุประสงค์ของการจัดทำแผนธุรกิจ (เพื่อขอสินเชื่อ , หาผู้ร่วมลงทุน หรือปรับปรุงกิจการ เป็นต้น )
      •  กลยุทธ์ในการบริหารโครงการ
           -  ด้านการจัดการ / การจัดซื้อสินค้าและการบริหารสินค้าคงคลัง / การตลาด และการเงิน
      •  ผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการ
           -  ระยะเวลาคืนทุน (Pay -back Period)
           -  จุดคุ้มทุน ( Break-even Point )
           -  มูลค่าปัจจุบันสุทธิของการลงทุน (NPV)
           -  อัตราผลตอบแทนของการลงทุน (IRR)


เคล็ดลับการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ


6 เคล็ดลับการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ
6 Important Internet Advertising Tips That Can Bring Success To Any Business
ผู้เขียน : Alex W1
แปล/เรียบเรียง : สาระดีดี.คอม


          การโฆษณาได้รับการพิจารณาว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่จะยกระดับให้แก่ธุรกิจต่างๆ   สามารถช่วยในการกระตุ้นผู้บริกโภคให้รับรู้ถึงสินค้าและบริการใหม่ๆ หรือสินค้าและบริการใหม่   ทุกวันนี้องค์กรต่างๆ เริ่มหันมาใช้การโฆษณาผ่านระบบออนไลน์เพื่อการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของตน  แต่โดยทั่วไปองค์กรมักใช้การโฆษณาออนไลน์โดยเน้นไปที่การโฆษณาชวนเชื่อ
          การโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตใช้ search engines ในการมองหาผู้ซื้อที่กำลังค้นหาสินค้าที่ต้องการ  แต่สำหรับแนวคิดการตลาดแบบออนไลน์นี้   การโฆษณาจะได้ผลหรือไม่ได้ผลจะขึ้นอยู่กับ keyword ที่คุณเลือกเป็นสำคัญ   keyword จะทำให้โฆษณาของคุณได้พบกับผู้บริโภคที่มีศักยภาพ  ดังนั้นการเลือกใช้วลีและคำที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญต่อการทำโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรทำในการตัดสินใจนำแนวการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตมาใช้  มีดังนี้คือ
          1)  ถูกต้องและกระชับได้ใจความ
               ความคิดที่คุณต้องการจะส่งถึงผู้บริโภคของคุณผ่านการโฆษณาจะต้องถูกต้องและตรงประเด็น  ควรเข้าใจง่ายและไม่ยาวเกินไป
          2) กำหนดหมายพื้นฐานของผู้เข้าชม
              การโฆษณาของคุณควรจะเจาะจงกลุ่มเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น ประชากรวัยรุ่น หรือประชากรผู้ที่เข้าใจอินเตอร์เน็ต  ค้นหาสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบและใกล้เคียงกับกระบวนการคิดของพวกเขา   เมื่อคุณเข้าใจความคิดของพวกเขาคุณจะสามารถดำเนินการรณรงค์โฆษณาได้อย่างสอดคล้อง    อย่างไรก็ตามลองสังเกตว่าคุณได้ลองที่จะค้นหาความแตกต่างอย่างชัดเจนของกลุ่มเรียบร้อยแล้ว
          3) แสดงภาพลักษณ์ที่ชัดเจนขององค์กรของคุณ
              สร้างโลโก้  เครื่องหมาย   ตัวนำโชค หรือคำขวัญองค์กร  แนวความคิดทั้งหมดคือการสร้างแบรนด์ให้คนสามารถจดจำองค์กรของคุณได้ผ่านภาพลักษณ์
          4) จงระวังคู่แข่งของคุณ
              ทำความรู้จักกับคู่แข่งที่กำลังไล่ตามหรือมีธุรกิจคล้ายกับคุณ   คุณสามารถตัดราคาคู่แข่งโดยการลดราคาสินค้าในโฆษณาของคุณ  คุณยังสามารถเปิดตลาดใหม่ๆ ที่คู่แข่งอาจจะไม่รู้จัก   นี่นับเป็นโอกาสสำหรับการวางโฆษณาให้ใกล้กับการพบเห็นของผู้เข้าชม
          5)  ทำการศึกษาวิจัยตนเอง
               การวางแผนทำโฆษณาจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการค้นคว้าวิจัย  คุณจะประสบความสำเร็จและสามารถเสนอการแลกเปลี่ยนที่พิเศษกับลูกค้า  ถ้าการทำโฆษณาของคุณดำเนินการโดยอยู่บนพื้นฐานของการศึกษาวิจัย    เนื่องจากการวิจัยของคุณจะทำให้สามารถระบุและทราบเป้าหมายของผู้เข้าชมได้ดียิ่งขึ้น     มีความจำเป็นที่จะต้องมั่นใจว่าข้อความที่คุณส่งออกไปผ่านการโฆษณาจะสื่อความหมายถึงผู้เข้าชมและไม่ใช่มีเพียงคุณคนเดียวที่จะเข้าใจ
          6) ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำปรึกษา
              หากคุณไม่สามารถวางแผนการโฆษณาด้วยตนเอง  กรณีนี้คุณจำเป็นต้องว่าจ้างมืออาชีพที่จะเข้ามาดูแลดำเนินการโฆษณาให้แก่คุณ  คุณจะเสียทั้งเวลาและเงินทองถ้าคุณพยายามดำเนินการโฆษณาด้วยตัวเองทั้งที่ยังขาดความรู้และทักษะที่เหมาะสมเกี่ยวกับการโฆษณา  ดังนั้นจึงควรที่จะยอมให้ผู้เชี่ยวชาญวิจัยและศึกษาตลาดในปัจจุบัน  พร้อมวางแผนการโฆษณาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
          ธุรกิจส่วนใหญ่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่มีเงินทุนหมุนเวียนต่ำมักกำหนดต้นทุนในการทำโฆษณาค่อนข้างน้อยในการดำเนินการส่งเสริมการตลาดให้กับธุรกิจของตน   การโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน  ทั้งนี้คุณจำเป็นต้องวางกลยุทธ์การดำเนินการโฆษณาเพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีในการนำมาใช้กับธุรกิจ