Welcome to Blog ห้องสมุดความรู้ หากท่านถูกใจ ฝากกดแชร์( Like) (G+) (Tweet) ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้จัด ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง เฮงๆรวยๆ #4289

HTML (ย่อมาจาก Hyper Text Markup Language)


HTML, XML,  XHTML, DHTML, CSS  เป็นคำศัพท์ที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในการสร้างเว็บไซต์  แต่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจนักว่ามันคืออะไรกันแน่ มีความแตกต่าง  และเกี่ยวข้องกันอย่างไร    หาคำตอบได้ในบทความต่อไปนี้ค่ะ
ก่อนที่จะลงรายละเอียดของแต่ละคำ ขอให้ความหมายแบบสรุปก่อน ดังนี้ค่ะ
Markup Language  เป็นภาษาที่ใช้ในการนิยามหรืออธิบายข้อมูล
HTML (ย่อมาจาก Hyper Text Markup Language)
เป็นภาษาที่ใช้สำหรับสร้างเว็บเพจ มีโครงสร้างประกอบไปด้วย tag และ attribute ต่างๆ ที่ใช้ในการควบคุมการแสดงผลของข้อความ รูปภาพ หรือวัตถุอื่น ๆ
XML (ย่อมาจาก eXtensible Markup Language)
เป็นภาษาที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นภาษากลางสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
XML เหมาะกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เนื่องจาก XML ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโปรแกรมประยุกต์หรือระบบปฏิบัติการใด
XHTML (ย่อมาจาก Extensible HyperText Markup Language)
เป็นภาษาที่เกิดจากการนำ XML และ HTML มารวมกัน  กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของ HTML    คำสั่งต่างๆนั้นก็ยังเหมือนกับ HTML แต่จะมีความเข้มงวดในเรื่องโครงสร้างภาษามากกว่า และมีการตัด tag และ attribute ที่ล้าสมัยออกไป
DHTML  (ย่อมาจาก Dynamic HTML)
ไม่ใช่ภาษา แต่หมายถึง HTML/XHTML ที่นำ JavaScript, VBScript, CSS มาใช้  ทำให้เว็บเพจมีลูกเล่นมากขึ้น และสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้
CSS (ย่อมาจาก Cascading Style Sheets)
เป็นภาษาที่มีรูปแบบการเขียน Syntax ที่เฉพาะ ถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้เสริมภาษา HTML แบบเดิม  ให้สามารถจัดรูปแบบการแสดงผลให้กับเอกสาร HTML/XHTML ได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น
ในบทความต่อไปเราจะมาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกกันต่อค่ะ

HTML คืออะไร

HTML (ย่อมาจาก Hyper Text Markup Language)

เป็นภาษาประเภท Markup Language ที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจ
มีแม่แบบมาจากภาษา SGML (Standard Generalized Markup Language ) ที่ตัดความสามารถบางส่วนออกไป เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้ได้ง่าย  
ปัจจุบันมีการพัฒนาและกำหนดมาตรฐานโดยองค์กร World Wide Web Consortium (W3C)
HTML มีโครงสร้างประกอบไปด้วย tag และ attribute ต่างๆ ที่ใช้ในการควบคุมการแสดงผลของข้อความ รูปภาพ หรือวัตถุอื่น ๆ
เช่น <b>ข้อความใน tag นี้จะเป็นตัวหนา</b>, <i>ข้อความใน tag นี้จะเป็นตัวเอียง</i> เป็นต้น
เราอาศัย tag ต่างๆ สร้างเป็นเว็บเพจ และให้โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ เช่น IE, Firefox ตีความและแสดงผลเป็นหน้าเว็บเพจให้เราได้ชม
แม้ว่าเราเขียน code ผิดพลาดไปบ้าง เช่น ลืม tag ปิด เว็บบราวเซอร์ ก็ยังสามารถตีความและแสดงผลได้อย่างถูกต้องเป็นส่วนมาก
ปัญหาจากการใช้ภาษา HTML ได้แก่  เราไม่สามารถสร้าง tag ใหม่ๆ ลงไปในเอกสาร HTML ได้   tag ที่เราใช้ W3C ต้องประกาศรองรับเป็นมาตรฐาน และเว็บบราวเซอร์ต้องสนับสนุนก่อน เราจึงจะนำ tag เหล่านั้นมาใช้เขียนเว็บเพจได้
นอกจากนี้ code ในเอกสาร HTML มีการปนกันของเนื้อหาในเว็บ กับการตกแต่งเอกสาร  ทำให้ code เข้าใจยาก และใช้เวลานานในการแก้ไขเอกสาร
ตัวอย่าง เอกสาร HTML
<html>
<head>
  <title>html คืออะไร</title>
</head>
<body>
<p align=”center”><b>html คืออะไร</b></p>
<p>html เป็นภาษาสำหรับสร้างเว็บเพจ</p>
</body>
</html>
ภาษา HTML ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ทาง W3C ได้ผลักดัน รูปแบบของ HTML แบบใหม่ ที่เรียกว่า XHTML   ซึ่งเป็นลักษณะของโครงสร้าง XML แบบหนึ่ง ที่มีหลักเกณฑ์ในการกำหนดโครงสร้างของโปรแกรมที่มีรูปแบบที่มาตรฐานกว่า   มาทดแทนใช้ HTML รุ่น 4.01 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น